เสก เดินทางเข้าพบตำรวจ รับทราบข้อกล่าวหา คดีฉี่ม่วง
ได้ฤกษ์งามยามดีเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว สักที สำหรับนักร้องชื่อดัง เสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ หลังจากเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่ได้เข้าพบ จนท.ตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดียาเสพติดหลังตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยอ้างว่าติดธุระส่วนตัว
ในวันนี้ 17 มกราคม 2561 นักร้องชื่อดังจึงเดินทางมาตามหมายเรียกครั้งที่ 2 พร้อมแฟนสาวคนล่าสุด อีฟ อภิสร์ญา และ นายมงคลวิจิตร ธนโสภณ ทนายความส่วนตัว ซึ่งเสกมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่ได้แสดงความวิตกกังวลแต่อย่างใด มีการพูดคุยทักทายสื่อมวลชนเล็กน้อยก่อนเข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ พละสาร สว.สน.คันนายาว เด็ดหน่อยก็ตรงที่ยังมีอารมณ์ขันแซวตำรวจตั้งแต่เท้าเหยียบ สน.ว่า ใครเข้าใกล้ตนระวังจะโดนย้าย แหม่…ทำเอาคุณตำรวจไม่กล้าเข้าใกล้เลยทีเดียว
“วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหาครับ หลังจากที่เราเลื่อนมาตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. มาวันนี้ก็เรียบร้อยดี ผมก็ให้การภาคเสธ คือปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา จะไปว่ากันในชั้นศาล ทางตำรวจทำหน้าที่ได้ดีมากทีเดียว ทุกอย่างเสร็จด้วยดีครับ เอกสารที่นำมาวันนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น และเรื่องการเกี่ยวข้องยาเสพติด ก็ให้การเหมือนที่ผมเล่าให้ฟังที่บ้านผม คือเราได้กินยาไบโพล่า ดังนั้นเดี๋ยวทนายของผมจะไปตามใบรับรองแพทย์ และเอายาที่ผมมีอยู่ที่บ้านมามอบให้เขา จากนั้นก็เสร็จ หมดหน้าที่ของตำรวจ ผมไม่ต้องมาที่โรงพักนี้แล้วครับ ต่อไปก็ไปว่ากันที่ชั้นศาล (มียาไบโพล่า ยานอนหลับ และยาเสริมสรรมถภาพทางเพศด้วย?) ยาสรรถภาพทางเพศเอามาให้ดูตลกๆ กินบ้างไม่กินบ้าง ยังสู้อยู่ (หัวเราะ) ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด ยืนยันครับ ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
(ตำรวจออกผลยืนยันว่ามีสารเสพติด อธิบายเรื่องนี้ยังไง?) ตำรวจพอเข้าไปที่ห้องผมแล้วก็ไม่ได้พบยาเสพติดแต่อย่างใด และไม่พบอุปกรณ์การเสพ ที่สำคัญคืออีฟเขาอยู่ในห้องกับผม และอีฟก็ได้ตรวจสารเสพติดด้วย ตรวจฉี่ด้วยที่นครบาล ก็ไม่พบสารเสพติด อันนี้คือสิ่งที่นักข่าวไม่ได้นำเสนอ เพราะฉะนั้นก็ต้องขอความเป็นธรรมให้ผมด้วยว่าอีฟอยู่ในห้องกับผม ถ้ามีการเสพยา อีฟก็น่าจะมีสารเสพติดหรือฉี่ม่วงด้วย ผมได้กินยาที่เล่าไปนั้น เกิดฉี่สีม่วงอะไรก็แล้วแต่ หรือทางตำรวจจะบอกว่าเกิดขึ้นเพราะเสพยาเสพติด อันนี้ไปว่ากันที่ชั้นศาล ผมไม่ปฎิเสธการตรวจแน่นอน เพราะผมไปถึงที่นครบาลผมก็ไม่ได้ปฎิเสธแต่อย่างใด จริงๆ ผมมีสิทธิที่จะปฎิเสธการตรวจด้วยซ้ำไปนะครับ ถามว่ากังวงไหม มีความกังวลใจครับ ทั้งคดีที่นครศรีธรรมราชและคดีที่นี่ด้วย ที่นครศรีธรรมราชก็ไปพบศาลอย่างถูกต้องแล้ว เดี๋ยวจะมีไปแถลงการณ์ออกไปว่าสิ่งที่ผมทำที่นครศรีธรรมราชนั้น เป็นการบวงสรวงอะไรยังไง เดี๋ยวจะมีการเซ็นใบกำกับต่างๆ จากทางเจ้าอาวาสและคณะกรรมการของวัด
จากนี้ไปผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่สิ่งที่ผมทำไปมันเป็นเรื่องของความชัดเจน และบางทีอาจจะมุทะลุ อันนี้ต้องขออภัยด้วย ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ ต้องขอโทษพี่น้องชาวไทยที่ทำให้ลำบากใจและเกิดข่าวของผมอยู่เรื่อยๆ แต่จริงๆ แล้วผมไม่เคยต้องการที่จะให้เป็นข่าว บอกตรงๆ ว่าตัวเองก็มีชื่อเสียงอยู่ ไม่ได้คิดที่จะทำให้โด่งดังหรือทำให้ใครเอาเยี่ยงอย่างแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวลนั้นเรียกว่าเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผมนครศรีธรรมราชนั้น ผมไปเล่นคอนเสิร์ตช่วยเขา ออกเงินเองนะจะบอกให้ เช่ารถไปต่างๆ นานา เอาลูกน้องไปเต็มไปหมด ไปเล่นคอนเสิร์ตไม่ได้สตางค์แม้แต่บาทเดียว เกิดเรื่องผมก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้เสียอกเสียใจอะไร เพราะว่าเราโตขนาดนี้แล้ว ถ้าเรื่องแค่นี้ผ่านไปไม่ได้ก็คงไม่ต้องทำมาหากินกัน ไม่มีผลกระทบอะไรกับชีวิตผม ผมยังเดินหน้าต่อไปได้เสมอ ตราบใดที่พี่น้องประชาชนยังให้กำลังใจ และจะบอกว่าถ้าผมผิดก็คงจะขอโทษในเรื่องของการยิงปืนขึ้นฟ้า แต่เรื่องอื่นๆ ที่ผมไม่ผิด ผมยังสู้ต่อไปได้” เสกกล่าว
