ไอ้จ้อย บ่าวคนสนิทหรือจะเรียกให้ทางการขึ้นก็คือ ทนายหน้าหอ ของหมื่นสุนทรเทวา (โป๊ป ธนวรรธน์) ซึ่งรับบทโดย โมสต์ วิศรุต หิมรัตน์ ที่เราพอจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างอย่างเช่นจากละครน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ และอีกหลายเรื่องๆแต่หนุ่มโมสต์ก็ปังมากจากละคร บุพเพสันนิวาส เรียกว่าออกมายิ้มก็ทำเอาเหล่าออเจ้าสาวๆเคลิ้ม ฟินไปหลายคืน จนกลายเป็นกระแสว่อนโซเชียลตามหาไอ้จ้อย แถมยังได้ฉายาจ้อย คิ้วท์บอย แห่งอโยธยาไปอีกด้วย ซึ่งด้วยกระแสที่ดีแบบนี้แหละจ้าหนุ่มโมสต์เลยกลับมากจากอเมริกาเร็วขึ้น และบอกเลยว่ากลับมาถึงปุ๊บงานก็แน่นเลยค่า วันนี้เราเลยมี 10 คำตอบจากใจไอ้จ้อยที่อยากจะบอกเหล่าออเจ้าทั้งหลาย อ้าวๆอย่ารอช้าอยู่ไยมาฟังจ้อยสิค่า
“ตอนนี้ก็เป็นอะไรที่ถ้าเทียบเป็นกราฟก็พุ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน อยู่ในสถานะที่ไม่เคยอยู่มาก่อนในชีวิตเหมือนกัน เรียกว่ามันเปลี่ยนรึป่าวผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ว่าก็ได้สัมผัสสถานะที่แบบว่าอ่อมันเป็นแบบนี้นี่เองครับ มีความแปลกใหม่ในชีวิต”
(ใช้ชีวิตยากกว่าเดิมมั้ย?) “ยังไม่ถึงช่วงลำบากครับ เพราะว่ามันเพิ่งเริ่มครับผม เอฟซีเข้ามาแปลกๆนี่ยังไม่เคยเจอนะ แต่ว่าตอนนี้อะไรที่เข้ามาผมก็ว่าแปลกใหม่หมด คนก็เข้ามาหา ยังไม่เคยถูกคนเข้ามาหาเยอะขนาดนี้ ก็จะมีพวกพี่ๆผู้หญิงบ้างที่เข้ามาหามาจับตัว แล้วก็จะมีพวกชาวคุณแม่ๆทั้งหลายเข้ามาเกาะไหล่มาเกาะแขนอะไรแบบนี้ครับ (หัวเราะ)”
(คิดมั้ยว่าบทบ่าวจะฟีคแบคดีขนาดนี้?) “ไม่เลยครับ คือหนึ่งเลยตอนที่ได้บทมาเนี่ยตัวละครของจ้อยตอนผมอ่านอ่ะ ผมก็รู้ว่าเออมันไม่ได้มีผลอะไรต่อเรื่องเลย ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น แต่ว่าผมไม่ได้มองในแง่ลบนะครับเพราะว่าอย่างน้อยเราก็สร้างสีสันให้กับละคร แล้วทีนี้เนี่ยความคาดหวังมันก็แค่เหมือนตอนที่เราเล่นละครแล้วละครจะออน พอละครจะออนเราก็โปรโมทหน่อยหวังว่าทุกคนจะชอบอะไรแบบเนี่ยครับ แต่ว่าก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเบิ้มกลายเป็นโกโก้ครั้นท์ขนาดนี้”
(กดดันมั้ยเพราะว่าเรื่องนี้เป็นพีเรียดแต่เราเป็นเด็กรุ่นใหม่?) “ต้องบอกว่าผมทำความเข้าใจมาหนักมาก ฉะนั้นการบ้านก็ไม่ต้องทำหนักมาก แต่ว่าการทำความเข้าใจเนี่ยหนักมากยากมากเพราะว่าเราคือเด็กทศวรรษที่ 20 แล้ว แต่ในเรื่องเนี่ยเราเล่นย้อนไปอีก ซึ่งถ้าเล่นเป็นคนระดับเดียวกับพี่โป๊ปผมจะโอเคมาก แต่นี่เล่นเป็นบ่าว แล้วภาพตอนนี้มันไม่มีให้เราเห็นแล้ว มันห่างไกลเรามาก แล้วเราต้องแสดงความรักนายมาก มอบกายถวายชีวิตมันยากมาก”
(พี่ใหม่ ผู้กำกับบรีฟหรือกดดันเรามั้ย?) “น่าจะเป็นพวกซีนไหนที่ต้องพูดเยอะๆ เพราะว่าคำพูดมันยาก โดยเฉพาะซีนที่ต้องเข้ากับพวกพี่ๆผู้ใหญ่เยอะๆกดดัน กลัวจะไปถ่วงพี่ๆ เขา คือถ้าบทจ้อยมันเป็นตัวที่พูดเยอะมาแต่แรกผมจะโอเคมากเพราะว่าเราได้พูดมาตลอด แต่จ้อยเนี่ยมันนานๆ ทีจะได้พูด เพราะว่ามันพูดแต่ขอรับๆ พอได้พูดก็จะไม่ชินเท่าไหร่ อย่างวันไหนมีซีนพูดเยอะๆผมซ้อมทั้งคืนแต่พอไปเข้าฉากจริงๆหายหมด (หัวเราะ) เพราะว่าคำมันยากมาก อย่างข้าจะฆ่าเจ้า หรือคำว่าเพลาโน่นนี่คือมันยากเรื่องภาษานี่แหละครับ”
(รู้สึกยังไงที่ได้ฉายา ไอ้จ้อย คิ้วท์บอย?) “ก็รู้สึกดีนะครับ เพราะว่าการที่ละครออนแอร์มาแล้วสิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จของเราคือฟีคแบคจากคนดูใช่มั้ยครับ ทีนี้มันก็ดีใจมากที่แม้กระทั่งเราอ่ะ ไอ้จ้อยที่ในเรื่องโผล่บ้าง ไม่โผล่บ้าง แต่ว่าก็มีคำนิยามที่คนนิยามให้ขนาดนี้ ผมก็รู้สึกว่าเฮ้ยคนดูเห็นเรานะ อันนี้คือสิ่งที่ชัดที่สุด เราก็ชื่นใจครับ”
(งานช่อง 3ที่ผ่านมามีหลายๆ คนถามหาเรา?) “คือต้องบอกว่าผมรู้สึกดีใจมากครับ เพราะว่าผมไม่คิดว่าในโอกาสพิเศษอย่างนั้นเราจะถูกถามหาด้วย มันชื่นใจมากครับ คือตอลดที่ผ่านมาผมก็เคยไปร่วมงานช่อง 3 นะ แต่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ แล้วปีนี้มีคนถามถึงเรา โอเคเราไม่ได้ไปเราเสียดายแหละ แต่ในความเสียดายมันชื่นใจมากที่คนถามถึง ดีใจสุดๆเลย”
(เห็นว่ายอดฟอลโล่ไอจีก็เพิ่มขึ้น?) “ใช่เพิ่มขึ้นครับ คือต้องบอกว่าตอนผมไปอเมริกาคือยอดฟอลโล่ผมลดลงไปเยอะมาก ลดลงไปหลายหมื่นเลย ผมเฟลมาก แต่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นจากตอนที่ลดลงไปแล้วประมาณเกือบจะ 300 เปอร์เซ็นต์ คือ3 เท่าของยอดเก่า จริงๆผมไม่อยากจะยึดติดกับเรื่องพวกนี้เลย แต่ว่าก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่ามันเป็นตัวบ่งบอกว่าคนเห็นเรามากขึ้น ดีใจครับๆ ผมเลยกลับมาเล่นโซเชียลมากขึ้น”
(ตอนนี้ได้วางแพลนอะไรไว้มั้ย?) “ไม่ได้แพลนอะไรเลยครับ ที่กลับจากอเมริกานี่ก็ไม่ได้แพลน ตอนแรกไม่ได้จะกลับเร็วขนาดนี้ (หัวเราะ) ก็ยังงงๆอยู่เลยครับแต่ว่าถึงตอนนี้ไม่มีเวลาให้งงแล้ว ต้องเตรียมความพร้อม ซึ่งผมก็จะทำต่อไปนะครับ จะรับไว้ เพราะว่ามันเป็นโอกาส ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าพอกระแสละครหมดจะเป็นยังไงถูกมั้ยครับ ฉะนั้นก็ทำสิ่งที่มีตอนนี้ให้ดีที่สุด ดีกว่าพอกระแสหมดไปแล้วเราจะมาเสียดายว่าโธ่วๆตอนนั้นเราน่าจะทำให้ดีครับ”
ขอบคุณรูปจากIG: @witsamost, @witsamost_fans, @broadcastthaitv