หลังจากถูก อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ ฟันธง! ว่าจะมีหนุ่มคนใหม่เข้ามาในชีวิตคุณแม่สุดสตรอง แพท ณปภา ซึ่งเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันแล้วว่าตอนนี้ยังไม่มี ไม่รู้อนาคต และไม่รู้ว่าความสัมพันธ์กับสามี เบนซ์ อัครกิตติ์ จะจบหรือไปต่อ เพราะทั้งคู่ห่างกัน ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวด้วยกันเกือบครบปีแล้ว และยังห่างกับครอบครัวของฝ่ายชาย ซึ่งเธอได้พาลูกชาย น้องเรซซิ่ง ย้ายออกมาจากบ้านของ หนุ่มเบนซ์ แล้วด้วย ล่าสุดมีโอกาสเจอ สาวแพท มาร่วมงาน “Diamond in the Wonderland Secret Garden” เลยได้ชี้แจงขยายความให้ฟังอีกครั้งว่า ที่ต้องพาลูกย้ายกลับมาอยู่บ้านตัวเองเพราะหลายสาเหตุ ไหนจะต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วย ทั้งสถานที่ สิ่งแวดล้อม ตัวเธอที่เป็นเสาหลักของทุกอย่าง ทั้งทำงานและดูแลครอบครัวจะได้ไม่ต้องไปๆ มาๆ ให้เหนื่อยและหนักมากกว่าเดิม สามีก็รับรู้และไม่ได้ว่าอะไร รวมทั้งตอนนี้ไม่มีคนกลางอย่าง หนุ่มเบนซ์ คอยประสานระหว่างเธอกับครอบครัวฝ่ายชายด้วย แต่ก็ยังติดต่อไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนกันอยู่ตลอด สาวแพท พูดชัดว่ายังรักและเป็นห่วงสามีเสมอ แค่ห่างแต่ยังไม่ได้เลิก จะพยายามทำหน้าที่ภรรยาและแม่ของลูกให้ดีที่สุด
“(เราให้สัมภาษณ์ไปคราวก่อน คนตีความหมายว่าเลิกกับเบนซ์แล้ว?) ยังหรอก ยังไม่ได้เลิกกัน จริงๆ แพทบอกไปตั้งแต่ตอนต้นสัมภาษณ์แล้วว่า แพทยังเป็นภรรยาที่ดีให้กับพี่เบนซ์อยู่ และยังเป็นแม่ที่ดีให้กับเรซซิ่งอยู่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นคือว่าก่อนหน้าอาจารย์ลักษณ์ เขาฟันธงไปไกลถึงปี 2562 แล้วพอถูกถามถึงอนาคต เราก็ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะว่า ณ ตอนนี้สิ่งที่มันเป็นอยู่มันก็อยู่ของมัน ณ สภาพแบบนี้อยู่แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าแพทมีคนใหม่แล้วเหรอ คือยังไม่มีนะคะ อาจารย์ลักษณ์แค่บอกว่าถ้าเราสามารถอยู่กับมันได้ รับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ จนเลยปี 2562 เข้าปี 2563 ทุกอย่างมันจะลงตัวกว่านี้ แต่ขอให้เราอดทน แต่ถ้าในระหว่างทางมันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น มันจะมีสิ่งหนึ่งที่เข้ามา สิ่งที่อาจารย์บอกนั่นคือ ผู้ชายเข้ามาในชีวิต แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ แล้วตอนนี้มันก็ยังไม่ถึงเวลาค่ะ”
“(ที่คนตีความแบบนั้นอาจเพราะเราให้สัมภาษณ์ว่าเราไม่ได้คุยและย้ายออกมาจากทางบ้านของเบนซ์แล้ว?) อันนี้มันก็เป็นเรื่องจริงที่เราเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะว่าหนึ่งเลยนะคะ น้องด้วย แพทด้วย ครอบครัวแพทด้วย คือเราต้องบอกก่อนว่าโดยก่อนหน้านี้แพทกับพี่เบนซ์ ระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันจนถึงมีลูก มันค่อนข้างสั้น ประมาณ 2 ปีได้มั้ง พอมันสั้นคือตัวกลางเขาไม่อยู่ ในการที่จะเชื่อมอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งกับแพท กับแม่พี่เบนซ์ กับโน้นนี่ รวมถึงพอเรามีน้อง ด้วยสถานที่ เพราะน้องโตขึ้นทุกวันค่ะ น้องก็ต้องการพื้นที่มากขึ้น ไม่ใช่แค่อยู่ในห้องแล้ว ไม่ใช่แค่ตึกแล้ว แล้วบ้านของแพทก็มีบริเวณ มีทุกอย่างโอเครองรับน้องอยู่แล้ว เราก็เลยตัดสินใจว่าเราย้ายกลับมาอยู่บ้านดีกว่าค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แพทต้องมาปิดบัง คือมันก็เป็นเรื่องจริง คนแถวนั้นก็เห็นอยู่แล้วว่าแพทย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วคนที่บ้านก็รู้”
“คุยกับแม่พี่เบนซ์ด้วยว่า แพทติดเรื่องของคุณแม่ ที่แพทต้องกลับมาดูแล ไม่งั้นมันจะกลายเป็นว่าแพทไปอยู่ตรงนู้น ถึงเวลาแพทก็ต้องกลับมาที่บ้าน วิ่งไปวิ่งมา มันเหนื่อยทั้งตัวเราทั้งลูกด้วยค่ะ แล้วเราเลี้ยงลูกเอง จริงๆ ทางคุณย่าเขาก็บอกว่าถ้าแพทไม่สะดวก หมายถึงว่าไปทำงานลำบาก ให้เอาน้องไปฝาก แต่ด้วยความที่เราเลี้ยงเขามาตลอดเวลา เราก็เลยคิดว่าเราเลี้ยงเองดีกว่า แล้วการที่น้องมากับเรามันไม่ได้ลำบากมาก เขามาก็ได้เรียนรู้ ได้รู้จักคน ได้เป็นที่รักของใครหลายๆคน เลยเลือกทางนี้มากกว่า”
“กับแม่พี่เบนซ์ล่าสุดเจอกันเมื่อวาน คุณแม่เขาก็บอกว่าถ้าแพทแฮปปี้ที่จะกลับมาก็กลับมา กลับมาอาทิตย์หนึ่งวันสองวันก็ได้ พาน้องมาเล่นกับแม่ แพทก็เพิ่งพาน้องไปมา ตรงนี้มันเป็นเรื่องภายในค่ะ อย่างที่บอกพอตัวกลางเขาไม่อยู่ คนเชื่อมทุกอย่างเขาไม่อยู่ มันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะพูดยากเหมือนกันนะ”
“กับตัวพี่เบนซ์เอง คือเวลาเราไปเยี่ยม เราก็ไม่รู้ว่าเราจะพูดอะไร แต่เขารับรู้มาตลอดว่าแพทย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้ไม่รับรู้นะคะ เพราะแพทบอกตลอดว่าพี่เบนซ์ ตอนนี้แพทกับลูกกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วนะ ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้บอกให้เราย้ายกลับไป เขาก็บอกว่าโอเค เอาที่แพทสบายใจ (กลัวคุณย่ากับเรซซิ่งจะห่างกันมั้ย?) อันนี้มันก็เป็นเรื่องที่เราก็พยายามทำให้เขาไม่ห่างกันมากๆ ค่ะ แต่ก็ต้องเข้าใจแพทด้วยว่าในตอนนี้แพทรับอะไรหลายอย่างในชีวิตมากเหลือเกินนะคะ อย่างแรกเลยคือตอนนี้แพทดูน้อง 100% หมายถึงเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ใช่แค่ของน้อง แต่ของแม่ ของตัวแพทด้วย ของครอบครัวด้วย ทีนี้แพทรับงานเยอะขึ้น เอาจริงๆ แพทแทบจะรับทุกงานเลยที่มีเข้ามา เพราะตอนนี้เราเริ่มเห็นค่าใช้จ่ายที่มันเป็นเลขขึ้นมาแล้วว่าลูกเราจะต้องใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่”
“ที่บอกว่าห่างกับพี่เบนซ์ด้วยความที่ตอนนี้แพททำงานเยอะขึ้น เวลาเยี่ยมพี่เบนซ์ก็จะเป็นแค่วันพฤหัส 1 ชั่วโมง แล้วมันก็ไม่ได้แปลว่าแพทจะสามารถไปเยี่ยมได้เอง แพทต้องรอคุณแม่พี่เบนซ์ด้วยว่าคุณแม่ว่างมั้ย เขาให้เยี่ยมแค่วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันก็ต้องตรงไปหมด บางทีเราก็ไม่อยากให้แม่รอเรา เพราะเราก็บอกไม่ได้ เราก็เลยเลือกเอาเป็นว่าแม่ไปก่อน แล้วเดี๋ยวแพทสะดวกวีคไหน เดือนไหนก็ค่อยไป”
“(แต่ถ้าเรามีเวลาว่างตามแพลน เราก็ยังพาน้องเรซซิ่งไปด้วยใช่มั้ย?) ไปค่ะ จริงๆ เอาตรงๆ เลยนะคะ แพทสรุปให้เลย ต้องเข้าใจแพทกับพี่เบนซ์ด้วยว่าเราสองคนเจอกันอาทิตย์ละครั้ง แล้วเราห่างกันมา เดือนหน้าก็จะครบ 1 ปีแล้วที่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วตอนนี้ภาระแพทเยอะขึ้น ลูกแพทโตขึ้นทุกวัน แพทต้องบอกตรงๆ จะได้ไม่ต้องถามอีกว่าทำไมถึงไม่เห็นแพทที่บ้านพี่เบนซ์เลย หรือญาติฝั่งใครก็แล้วแต่ คือแพทสะดวกที่จะเอาน้องกลับมาเลี้ยงที่บ้านมากกว่า ด้วยเรื่องของบริเวณ สถานที่ ประกอบกับแพทมีคุณแม่ที่แพทยังต้องดูแล การวิ่งไปวิ่งมา หอบลูกไปๆ มาๆ ไม่สะดวกจริงๆ แล้วตรงนี้พี่เบนซ์รับรู้นะคะ ว่าแพทกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งพี่เบนซ์ไม่ได้ว่า หรือไม่ได้มีข้ออะไรทั้งนั้น เขาบอกว่าแล้วแต่ ส่วนตอนนี้หน้าที่ของแพทคือ แพทกับพี่เบนซ์ก็ยังเป็นสามีภรรยากัน แพทก็ยังทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วก็ยังเป็นแม่ของลูกเขาให้ดีที่สุดค่ะ”
“(ตอนที่มีข่าวออกไป คนมาถามเยอะคิดว่าเรามีปัญหาหรือเลิกกันจริงๆใช่มั้ย?) ใช่ คนเข้าใจว่าเราห่างกันจริงๆ ซึ่งเราก็บอกว่าก็ห่างแหละพี่ โธ่ เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่าเรายังไม่เคยออกมาบอกว่าตอนนี้แพทกับพี่เบนซ์เราจบความสัมพันธ์กันแล้ว ยังไม่มีนะคะ ยังไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพียงแต่ว่าเราก็ยอมรับสถานการณ์ว่าตอนนี้เราห่างกันจริงๆ ด้วยหนึ่งภาระหน้าที่ที่แพททำ งาน แล้วก็ลูก แพทก็บอกเขาตรงๆ เลยว่ามันหนักมากจริงๆพี่เบนซ์ แล้วแพทก็พยายามบอกเขาว่าเราทำอะไรบ้าง เราถึงปรึกษาเขาเรื่องค่าเทอมลูกต่างๆที่เราจะต้องแบกภาระตรงนี้อยู่คนเดียวค่ะ”
“(เรายังรักเบนซ์อยู่มั้ย?) ยังรักแล้วก็เป็นห่วงเขาอยู่ค่ะ การที่เราย้ายออกมา มันก็ไม่เชิงว่าปรึกษาหรอกค่ะ มันก็คือการที่เราตัดสินใจแล้วก็ไปถามเขานั่นแหละว่า พี่เบนซ์ตอนนี้แพทย้ายกลับมาแล้วนะ เพราะว่าด้วยอะไรหลายๆ อย่าง คุณโอเคมั้ย เขาโอเคก็คือโอเคค่ะ” แพท กล่าว