ตา ฟ้อง วิทย์ โบท็อกซ์

ไม่ลดสักสลึง! “วิทย์ ขุนศึก” สู้คลีนิคโบท็อกซ์ต่อ ยันจะเอา 2.8 ล้าน

Home / Omgossip / ไม่ลดสักสลึง! “วิทย์ ขุนศึก” สู้คลีนิคโบท็อกซ์ต่อ ยันจะเอา 2.8 ล้าน

          ยืดต่ออีก! พระเอก “ขุนศึก” วิทย์-วรวิทย์ ไกล่เกลี่ยคลีนิคดังรอบ 2 ไม่ลงตัว ศาลนัดอีก 25 พ.ค.นี้ ลั่นไม่มีวันลดเงินเรียกค่าเสียหายเกือบ 3 ล้าน บอกสมเหตุสมผลที่ทำให้ตนเสียผลประโยชน์แล้ว!!

 

          เดินทางมายังศาลอาญา ย่านรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 เม.ย.) เพื่อไกล่เกลี่ยกับคลีนิคชื่อดัง “ผิวดีคลีนิค” เป็นครั้งที่ 2 หลังคลีนิคดังกล่าวได้ฉีดสารโบท็อกซ์ จนเป็นเหตุทำให้ตาซ้ายของพระเอก “ขุนศึก” วิทย์-วรวิทย์ แก้วเพชร ปิดจนหวิดเสียโฉม และทางดาราหนุ่มก็ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาจงใจหรือประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายถึงชีวิตและร่างกาย พร้อมฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2,872,341 บาท

 

          ความคืบหน้าล่าสุดหลังใช้เวลาไกล่เกลี่ยอยู่นาน 2 ชั่วโมงครึ่ง “วิทย์ ขุนศึก” ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ยังเคลียร์กับคู่กรณีไม่ลงตัว เนื่องจากต่างฝ่ายต่างยื่นข้อเสนอของตัวเอง และไม่ยอมลดราวาศอกกัน ซึ่งศาลก็ได้นัดหมายอีกครั้งวันที่ 25 พ.ค.นี้

 

          “วันนี้ก็ยังเคลียร์กันไม่ได้ คือเราบอกข้อเสนอของเราไป เขาก็เสนอของเขามา ซึ่งข้อเสนอมีอะไรบ้าง ผมยังบอกไม่ได้เพราะมันมีผลต่อรูปคดี แต่ถ้าคดีจบแล้วผมจะบอกให้หมดเลย พอต่างคนต่างยื่นข้อเสนอไป มันยังหาจุดตรงกลางที่ลงตัวกันยังไม่ได้ ท่านผู้พิพากษาเลยบอกว่างั้นเลื่อนไปก่อนดีมั้ย ให้ต่างฝ่ายรับรู้ว่าเป็นอย่างนี้แล้วเอากลับไปคิดกัน คดีก็เลยเลื่อนไปอีกเป็นวันที่ 25 พ.ค.นี้”

 

          ” จริงๆ แล้วไม่มีใครอยากเข้าไปขั้นตอนศาลหรอก มันเสียเวลา เหมือนคนต่อยกันมันเจ็บทั้งคู่ ผมก็เสียเขาก็เสีย มันยิ่งไปสร้างความแค้นให้กันมากกว่า และทางผมเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันยาวมาก จะได้ไม่ต้องเสียเวลากันทั้งคู่ ดังนั้นถ้าเราคุยกันได้และหาจุดกึ่งกลางได้มันจะดีกว่า ตอนนี้เราสองคนก็กำลังหาจุดกึ่งกลางที่จะคุยกันได้อยู่”

 

          ผู้สื่อข่าวกระแซะถามต่อว่าข้อเสนอที่ยื่นให้อีกฝ่าย มีเรื่องของจำนวนเงินเกือบ 3 ล้านบาทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ดาราหนุ่มเผยว่า

 

          “เป็นเรื่องของตัวเงินด้วย ที่เราเรียกเงินไปจำนวนเท่านั้น ทางทนายผมเป็นคนจัดการ โดยคำนวนในส่วนที่เราได้เสียผลประโยชน์ไปจริงๆ เราดูว่าทำงานไม่ได้กี่เดือน เรื่องมันเกิดเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นี่ก็เดือนเม.ย.แล้ว โอเค.ตอนนี้มันดีขึ้น ตายังไม่เท่ากันอีกนิดหนึ่ง ถ้าไม่มองก็ดูไม่รู้ แต่ถ้าถ่ายรูปออกมาแล้วดูดีๆ จะเห็นว่าตาไม่เท่ากัน แต่ถึงแม้ตาจะหายแล้ว ในทางของศาลถือว่าเหตุมันเกิดขึ้นไปแล้ว ความเสียหายเกิดขึ้นไปแล้ว ดังนั้นเรายังคงต้องดำเนินคดีฟ้องร้องกันต่อไป ถามว่าครั้งหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องจำนวนเงินเรียกค่าเสียหายมั้ย คงไม่เปลี่ยนแล้วล่ะ”