ฟ้อง วิทย์ โบท็อกซ์

“วิทย์” ยอมจบคลีนิกความงาม ได้รักษาฟรีตลอดชีพ ด้านหมอเจ้าของมั่นยอมความ เพราะรู้ฟ้องไปก็ไม่ชนะ

Home / Omgossip / “วิทย์” ยอมจบคลีนิกความงาม ได้รักษาฟรีตลอดชีพ ด้านหมอเจ้าของมั่นยอมความ เพราะรู้ฟ้องไปก็ไม่ชนะ

          “วิทย์ ขุนศึก” จับมือเคลียร์คลีนิกความงามชื่อดังลงตัว ยันไม่มีเรื่องเงินเกี่ยวข้อง แต่จะได้รับการรักษาหน้าฟรีตลอดชีวิต เผยได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีเลยเข้าใจถึงความผิดพลาด ปัดสร้างข่าวหวังให้ตัวเองดัง ยันยังกล้าฉีดโบท็อกซ์กับคลีนิกเจ้าเดิมต่อ ด้านคุณหมอเจ้าของคลีนิกเผยเป็นผลข้างเคียงแค่ 0.5%ทำตาซ้ายดาราหนุ่มปิด มั่นวิทย์ยอมความเพราะรู้ฟ้องไปก็ไม่ชนะ

 

          จากกรณีที่ดาราหนุ่ม วิทย์-วรวิทย์ แก้วเพชร ได้ไปฉีดโบท็อกซ์รอบดวงตาเพื่อลดริ้วรอย ที่คลีนิกความงามชื่อดัง “ผิวดีคลีนิก” จนทำให้หนังตาด้านซ้ายย้อยปิดลงมา และต้องแคนเซิลงานสูญรายได้เป็นหลักล้าน เจ้าตัวจึงเข้าแจ้งความและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับคลีนิกดังกล่าวเป็นเงินเกือบ 3 ล้านบาทนั้น ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ วิทย์-วรวิทย์ และพญ.กุหลาบ จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการผิวดีคลีนิก ได้จับมือกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เรื่องทั้งหมดจบลงด้วยดี ดาราหนุ่มถอนฟ้องผิวดีคลีนิกเรียบร้อยแล้ว

   

วิทย์     “ตอนนี้ผมจบแล้วก็ถอนฟ้องและถอนแจ้งความเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะจากครั้งแรกที่มีปัญหาเราไม่มีการสื่อสารพูดคุยกัน แต่หลังจากได้เข้าขั้นตอนการไกล่เกลี่ยของศาล ผมก็ได้เจอกับคุณหมอครั้งแรกตอนนั้น พอเราได้คุยกันผมก็เข้าใจว่า มันเป็นหลักที่ถูกต้องอยู่แล้วว่า คงไม่มีหมอคนไหนที่จงใจจะไปฉีดทำให้หน้าคนไข้พังหรอก ยิ่งเป็นดารายิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ ยอมรับว่าครั้งแรกเกิดจากอารมณ์และการสื่อสารที่ไม่ได้คุยกัน พอคุยกันคุณหมอก็บอกให้เข้าไปคลีนิก เขาจะดูให้ หลังจากนั้นผมก็เข้าไปคุณหมอก็รักษาให้จนหาย แล้วพูดตรงๆ ผมไม่อยากมีเรื่องต่อ อยากให้มันจบก็เลยถอนฟ้อง”

 

หมอ      “ตอนที่เกิดเรื่องกับคุณวิทย์หมอตกใจมาก เพราะเปิดคลีนิกมา 20 ปีแล้วฉีดโบทอกซ์มา 10 กว่าปีและฉีดมามากกว่า 2,500 รายแน่ๆ ไม่เคยเจอปัญหาเลย วันที่น้องเขามาใช้บริการก็ดีใจ แล้วเขาขอใช้คอร์สของเพื่อน ปกติตามคลีนิกจะไม่อนุญาติ แต่หมอรู้สึกว่าน้องเขาอุตส่าห์มา ไม่ได้หรอกต้องช่วย มีอะไรช่วยได้ก็ช่วย แต่พอเกิดเรื่องขึ้นมาหมอก็ตกใจและเสียใจ เราก็มาย้อนดูว่าสาเหตุว่าเกิดจากอะไร หลังจากนั้นพอได้คุยกันก็ตกลงกันได้ คุณวิทย์เข้าใจในเหตุผลว่า  ทางหลักวิชาการแพทย์มันพบได้ถึงแม้จะพบได้น้อย 0.5% พอเขาเข้าใจประเด็นนี้แล้ว เขาก็ยินดีจะช่วยหมอ”

 

          ทางคลีนิกได้ชดใช้เรื่องเงิน?

วิทย์     “ไม่มีครับ คุณหมอบอกว่าจะดูแลหน้าผมตลอดไป (หัวเราะ)”

 

หมอ      “หมอคิดว่าประเด็นใหญ่คือน้องเขาตกใจ หลังเกิดเหตุการณ์เขามาให้หมอดูแลอยู่ 3 วัน ก็ดีขึ้นบ้างแต่ยังไม่หาย เขาก็ตกใจ วันนั้นหมอไปวังน้ำเขียวแล้วน้องเขาพยายามโทรมา แต่มันไม่มีสัญญาณ พอเขาโทรไม่ติดก็นึกว่าหมอไม่ใส่ใจเขา คิดว่าประเด็นนั้นที่ทำให้เขาไม่แฮปปี้ ด้วยความตกใจและกลัวว่ามันจะเป็นถาวร แต่จริงๆ มันเกิดตามทฤษฎีจะเป็น 2-4 อาทิตย์ ของเขาเดือนหนึ่ง-6 อาทิตย์ก็เริ่มเป็นปกติแล้ว”

 

          ดูยอมความง่ายเกินไปหรือเปล่า?

วิทย์     “ก็ใช่ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่พอเวลามันผ่านไปและเรื่องมันเยอะ คิดว่าถ้ามันจบได้ก็จบดีกว่า คือเราเข้าใจว่าความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้”

 

หมอ      “อีกประเด็นหนึ่งที่น้องวิทย์เข้าใจคือ ทางต่างประเทศโดยเฉพาะคุณหมอที่ชื่อดังที่สุดของอเมริกา คุณหมอบอกว่าที่อเมริกาคดีเรื่องโบท็อกซ์ ถ้าเกิดอาการข้างเคียงจะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ น้องเข้าใจว่า1.ทางการแพทย์เกิดขึ้นได้ 2.มันเป็นสิ่งที่ทั่วโลกยอมรับว่าไม่ใช่ความผิด ฟ้องไปก็ไม่ชนะ มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ”

 

          เกี่ยวกับเหตุผลรู้ว่าฟ้องไปก็ไม่ชนะ เลยยินดีถอนฟ้อง?

วิทย์     “อันนี้ขอไม่พูดถึงดีกว่า และไม่ใช่ว่าผมทำเพราะต้องการสร้างกระแสให้ตัวเอง ถ้าเกิดตาปิดไปข้างแล้วออกมาเรียกกระแส ผมคงไม่ทำ และขอยืนยันว่าการถอนฟ้องครั้งนี้ เขาไม่ได้ให้เงินชดเชยใดๆ แต่เขาจะดูแลหน้าให้เราฟรีตลอดชีวิต ซึ่งผมก็ยังไว้ใจให้เขาทำ เรื่องศัลยกรรมคงไม่ทำ แต่ฉีดโบท็อกซ์ไม่แน่ (หัวเราะ) ที่ฮอลลีวู้ดก็ฉีดกันหมด แต่เราต้องคิดละเอียดมากขึ้น คิดให้รอบคอบขึ้น ดูจุดไหนที่เซฟที่สุด ที่ตาซ้ายผมก็คงไม่ไปยุ่งแถวนั้นอีกแล้ว เพราะกลัวเดี๋ยวเป็นอีก ก็อยากฝากเตือนคนที่คิดจะทำด้วยว่า จะทำอะไรต้องเช็คข้อมูลดีๆ และต้องทำใจไว้ด้วย เพราะการทำศัลยกรรมคือ 50-50 มันไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องมีผิดพลาดกันได้”