เบนซ์ เรซซิ่ง แพท ณปภา

ไปต่อไม่รอแล้ว! แพท ณปภา เผย(ยัง)ไร้ฟีดแบ็คจาก เบนซ์

Home / Omgossip / ไปต่อไม่รอแล้ว! แพท ณปภา เผย(ยัง)ไร้ฟีดแบ็คจาก เบนซ์

  ดาราสาว แพท ณปภา เปิดใจเรื่องสถานะครอบครัวอีกครั้ง ที่งาน K-Beauty Day K-Beauty Secrets Recipe (Hair & Makeup Seminar) ห้องแรมแบรนดท์ 3 ชั้น 2 โรงแรมแรมแบรนดท์ โดยเจ้าตัวเผยมีโอกาสได้เจอกับ เบนซ์ เรซซิ่ง แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน บอกไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง สำหรับตนขอทำแค่หน้าที่แม่อย่างเดียวตลอดไป ส่วนหน้าที่ภรรยาไม่รอแล้ว… รายละเอียดดังนี้

 ”ก็เหมือนเดิมนะคะ วันนี้ได้เจอแต่ว่าไม่ได้คุย พอดีวันนี้ให้พี่เบนซ์มารับน้อง พอเราทำธุระเสร็จก็ไปรับน้องที่ตึกพี่เบนซ์ มันก็พูดยาก เพราะก็ลงรายละเอียดไปเยอะแล้ว ถ้าถามจะว่ารอมันก็ไม่เชิง ก่อนจะทำอะไรเราก็พูดไปหมดแล้ว แต่ว่ามันยังนิ่งๆ อยู่ อาจจะเป็นแนวนี้ก็ได้ ถ้าทุกคนแฮปปี้ เราแฮปปี้ ก็ให้มันเป็นแบบนี้ วันนี้ที่เจอกันก็เล่นกับลูก ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม ก่อนหน้าที่แพทจะยืนยันว่าจะเดินสายนี้มันก็เป็นแบบนี้ค่ะ วันนี้ก็แค่ทำเหมือนเดิม เขาไม่มีโอกาสให้เราเคลียร์ คุยแค่เรื่องพ่อแม่ลูก”

  ”มันก็พูดยากค่ะ ว่างๆ ก็ถามกินข้าวกันมั้ย เราก็ว่าได้ ได้เสมอ หน้าที่ที่มันหายขาดไม่ได้คือพ่อแม่ลูก เพราะฉะนั้นเราไม่มีทางเลิกติดต่อกันแน่นอน ก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป เขาก็มีถามเหมือนกันว่าเราวางระบบเรื่องดูแลลูกหรอ เราก็ขออนุญาตวางนะคะ เพราะว่าเราจัดการแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เราก็เลยคิดว่าจัดการให้ดีกว่า แล้วเราก็ไม่ได้ปิดกั้นถ้าเราเอาลูกมาแล้วเขาอยากมาด้วย เราก็แฮปปี้ เพียงแต่ว่าถ้าเขาไม่สะดวกก็แค่บอกแล้วมารับน้องไป เดี๋ยวพอเสร็จงานแล้วเราไปรับ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ถ้าวันไหนแพททำงานยาวมากๆ ก็ให้พี่เบนซ์ช่วยดูลูก พอเสร็จงานก็ไปรับ แต่ถ้าวันไหนไม่มีงานมากแพทก็ขออนุญาตดูลูกเอง”

  ”โมเมนท์พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันสาม ไม่มีค่ะ อย่างวันนี้เขาก็แฮปปี้ค่ะ ก็ปกติเหมือนทุกครั้งที่แพทไปรับลูกค่ะ เจอคุณย่าก็เล่นกับหลานปกติ (โอเคทั้งสองฝ่ายกับสถานะแบบนี้?)เอาตรงๆ แพทคิดว่าอย่างนั้น แพทคิดเองเพราะมันไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้ แล้วก็ไม่ได้มีการคุยกันไปมากกว่านี้ อย่างที่บอกว่าตอนนี้จะทำอะไรก็ต้องระวังตัว ไม่ใช่อะไรคือระวังความรู้สึกเขา เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าเขาไม่แฮปปี้กับอะไรบ้าง แพทไม่ได้คุยกับเขาโดยตรงแต่ฟังจากที่เขาให้สัมภาษณ์ รู้สึกแล้วว่าทุกอย่างมันต้องระวัง อะไรมันไปกระทบกับเขามากมันก็ไม่ได้ ก็ต้องตอบอะไรให้มันเป็นกลางมากที่สุดค่ะ”

  “ทำไมไม่เลือกคุยเคลียร์กันตรงๆ คือแพทไม่รู้จะเริ่มยังไง หนึ่งคือวันที่เขาสัมภาษณ์เขาก็ไม่ได้บอกว่าจะสัมภาษณ์ แล้วพอหลังสัมภาษณ์เสร็จเขาก็ไม่ได้ติดต่อแพทกลับมา คือเอาตั้งแต่วันที่โพสต์ก่อนดีกว่า แพทไม่ได้หายไปไหนนะคะ แพทโทรหาเขา หาคุณแม่เขา แพทก็ไม่รู้เขาอยู่ใสภาวะไหนก็เลยให้เวลากับเขาติดต่อกลับ จนวันจันทร์ตอนเย็น เขาถึงติดต่อชวนไปทานข้าวเนื่องจากว่าวันอังคารมันเป็นวันครบรอบแต่งงาน เราก็เข้าใจได้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการพูดคุย”

  ”ทีนี้เหมือนว่าแพทจะต้องเจอพี่ๆ ก็เลยรีบบอกเขาไปก่อนว่าเราจะตอบแบบนี้ ถ้าเกิดเขามีฟีดแบ็คเราจะได้รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ว่ามันไม่มีไงคะ เพราะว่าสิ่งที่แพทเขียนไปมันก็ค่อนข้างชัดเจน เหมือนนัยหนึ่งว่าขอคำปรึกษาว่าเราจะพูดอย่างนี้คุณคิดยังไง คือถ้าเขาไม่โอเคก็น่าจะมีฟีดแบ็คกลับมา เช่น ไม่ๆ รอคุยกันก่อนค่อยตอบหรืออะไรก็ได้ เพราะแพทก็บอกเขาแล้วว่าขออนุญาตตอบแบบนี้ได้มั้ย แพทก็ยืนยันคำเดิมว่าจะเดินทางนี้นะ เขาโอเคมั้ย ในความรู้สึกของแพทถ้ามันไม่โอเคหรือมันต้องคุยกันเขาน่าจะพิมพ์ตอบกลับมาเพราะแพทยังไม่เจอพี่ๆ ยังโต้ตอบได้ถึงตอนเช้าเลย ก็คิดว่ามันโอเค เพราะในบทสนทนามันก็ไม่ได้มีคำว่าอย่าเพิ่ง อย่าเลย มันไม่มีตรงนี้ พอวันที่แพทเจอพี่ๆ แพทเลยยืนยันเหมือนเดิม”

  ”เขารับรู้ทุกอย่างที่เราตัดสินใจไป ใช่ค่ะ รับรู้ทุกอย่าง วันนี้เจอกันครั้งแรกหลังจากที่ตัดสินใจไป แพทว่ามันก็เริ่มชัดเจนแล้ว บางสิ่งบางอย่างมันต้องใช้เวลา แล้วยิ่งเราเจออะไรหนักๆ แบบนี้ก็ต้องใช้เวลาทั้งคู่ วันนี้แพทตอบได้ในส่วนของแพทว่ามันคงเป็นแบบนี้แบบนั้นมั้ง แต่ฝั่งของพี่เบนซ์แพทไม่รู้เลย แล้วก็ไม่กล้าตอบแทนเขาว่าเขาเลือกอย่างนั้นอย่างนี้ แต่แพทตอบตามความรู้สึกของตัวเองว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น”

 ”รอความชัดเจนจากเขา ก็เรื่อยๆ ค่ะ นี่มันก็ชัดเจนแล้วเนอะ เพราะแพทไม่ได้ใช้คำว่ารอแล้วค่ะ แพทก็คิดว่าจะเดินทางนี้เป็นแม่ของน้องอย่างเดียว หมายถึงหน้าที่เดียวที่แพททำอยู่ และเป็นหน้าที่เดียวที่ต้องทำตลอดไป เพราะไม่ได้บอกว่าจะกลับไปเป็นเมียเป็นภรรยาของเขา ดอกไม้ก็เป็นการแสดงความยินดีที่เราได้รู้จักและแต่งงานกันมาครบรอบ 2 ปี เขาขอให้แพทมีความสุขและขอโทษที่มาไม่ทันนัดที่จะมากินข้าวกันแค่นั้นค่ะ”

  ”จะค้างคาไหมถ้าจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน แพทไม่รีบอยู่แล้ว ให้เวลามันค่อยๆ รักษาเราทั้งคู่ ไม่แน่ว่าอนาคตเราอาจจะกลับมาคุยกันได้ดีกว่าเดิมก็ได้ เรื่องตรงนี้มันละเอียดอ่อนค่ะ แพทก็บอกเขานะคะว่ามันไม่มีอะไรตายตัวหรอก วันนี้เราคุยกันแบบนี้ วันข้างหน้าอาจจะดีกว่านี้ หรือมันจะต้องมีทางอะไรที่ทำให้เราเห็นมากขึ้น”

  ”ถ้าหลังจากนี้เขาไม่เคารพการตัดสินใจของเรา ไม่เป็นไร แพทเชื่อว่าทุกคนคงเห็นอะไรพร้อมกับแพทมามากแล้ว เพราะฉะนั้นแพทบอกตัวเองไว้แล้วว่ายืดหยุ่นค่ะ ถ้าแพทใช้ความรู้สึกคงไม่ต้องรอสองเดือนกว่า แต่แพทใช้เหตุผลความรักเพื่อครอบครัวค่ะ แพทเอาเรซซิ่งเป็นที่ตั้ง ก็อยากลองทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกก่อน (แสดงว่าการตัดสินใจครั้งนี้ดีที่สุดสำหรับเรซซิ่ง?)ก็มันได้แค่นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะดีหรือไม่ดี แต่มันได้เท่านี้ก็คือเท่านี้”

  ”ตอนนี้ไม่มีคนเข้ามาค่ะ แพทไม่ได้เปิดรับใคร เหมือนพอเราได้พูด พี่เบนซ์ได้พูด คนเสพข่าวทั้งคู่ มันก็จะไม่ได้มาฝั่งแพทฝั่งพี่เบนซ์ มันพูดทั้งคู่ คุณก็ไปพิจารณาเอาเอง แพทไม่สามารถทำตามคนอื่นได้ แพททำได้คือสิ่งที่แพททำแล้วมีความสุข แพทใช้ความสุขในการทำงานเพื่อมอบความสุขให้คนอื่น ใช้ความสุขในการเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัว เพราะฉะนั้นอะไรที่รู้สึกว่าหนักไปแล้วและไม่เห็นว่ามีความสุขเลยแพทจะหยุดไว้ก่อน เพราะต้องการความสุขมากกว่า”

  ”เรซซิ่งเป็นเด็กน่ารักมาก เขารักพ่อแม่เท่ากัน อันนี้แพทสัมผัสได้ เขาจำเก่ง เพราะแพทก็สอนให้เขารักปะป๊า เขารู้ว่าวันไหนที่ปะป๊ามารับก็จะรู้เวลา เราสอนลูกให้รักทุกคน คุยกันกับลูกทุกวัน แพทอยากให้เขารู้สึกว่าไม่ได้ขาดใครเลย ปะป๊ากับหม่าม้าก็รักเขาเหมือนกัน แพทเชื่อว่าพี่เบนซ์น่าจะทำหน้าที่พ่อได้ดี ลูกชายกับคุณพ่อสายเดียวกันอยู่แล้ว ในตัวเรซเหมือนพี่เบนซ์มาก ในความเป็นพ่อทำได้เยี่ยมค่ะ ชื่นใจค่ะ” แพท กล่าว

ขอบคุณ ภาพเพิ่มเติมจากไอจี benzracing

แพท ณปภา
แพท ณปภา

 

 

 

เบนซ์ - น้องเรซซิ่ง
เบนซ์ – น้องเรซซิ่ง