ถือเป็นครูคนแรกของพระเอกหน้าหนวดอย่าง บอย ปกรณ์ สำหรับนักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ เปี๊ยก พิศาล ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันในเช้ามืดวันนี้ (4 ธ.ค. 2561) ทันทีที่รู้เรื่องพระเอกฮอตจอมเกรียนถึงกับช็อก เพราะสำหรับหนุ่มบอย อาเปี๊ยกถือเป็นครู เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสำคัญกับชีวิตของเขามากๆ งานรดน้ำศพเมื่อเย็นที่ผ่านมาพระเอกบอยจึงถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมลั่นว่าคำขอบคุณจะเพียงพอกับสิ่งที่คุณอาผู้ล่วงลับทำให้ตนได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
“อาเปี๊ยกเป็นทุกอย่าง เป็นอีกพาร์ทหนึ่งของชีวิตผมครับ การที่ผมมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ก็เพราะอาให้โอกาสผม (สะอื้น) ผมได้เข้ามาแคสที่ช่อง ทิ้งโปรไฟล์ไว้ แล้วพอดีว่าอาเปี๊ยกกำลังหาตัวนักแสดงไปเล่น ช่องก็ส่งไปแคสที่อา ถ้าผมผ่านการแคสของอา หมายความว่าจะได้เล่นละครของอาและได้เซ็นสัญญาช่อง มีหลายครั้งที่ช่องถอดใจจากผม แต่ว่าอาเปี๊ยกยังเชื่อมั่น ยังสู้กับผม รอผม 2 เดือน (สะอื้น) มันมีหลายเหตุการณ์มากๆ ที่อาทำให้ผมรู้และอาพูดกับผมเองเลยว่ายังไงก็จะรอผม จะเอาผมเล่น
เขาไม่ค่อยบอกว่าเห็นอะไรในตัวผม คือสำหรับผมแล้วอาไม่ค่อยชมผมเท่าไหร่ จะเป็นแนวนี้ แต่ผมก็รู้และกล้าพูดในระดับหนึ่งว่าอาเขาเอ็นดูผม แต่เขาไม่ค่อยแสดงออกว่าเอ็นดู แต่ผมรู้ว่าอารักผมมากครับ มีเหตุการณ์ประทับใจเยอะ สิ่งที่อาสอนผมมันไม่ใช่แค่เรื่องการแสดง ผมไปอยู่กับอาประมาณ 2 เดือนอย่างที่บอก ไปแคสไปเรียนแอคติ้ง ถ้าผมเล่นไม่ได้อาบอกว่าจะยังไม่เปิดกล้อง ‘กูไม่เปิดเพราะมึงยังเล่นไม่ได้ ถ้ามึงเล่นไม่ได้ ทีมงานก็ยังไม่มีกิน (บอยร้องไห้) มึงดูเอาละกัน มึงรีบเล่นให้เป็นเร็วๆ ทีมเขาจะได้ไม่ต้องรอ’ แต่อาเขาบอกผมว่า ‘สุดท้ายยังไงกูก็จะรอ กูจะเอามึง’ นี่คือคำที่อาพูดกับผมบ่อยๆ ช่วงนั้นครับ เขาเคี่ยวเข็ญผม
อาเป็นจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง ถึงผมจะผ่านงานอื่นมาบ้าง แต่ผมมารู้จักการแสดงจริงๆ มาทำงานจริงๆ รู้จักการใช้ชีวิตตรงนี้จริงๆ เพราะอาเป็นคนสอนผมหมด อาเป็นคนหนีบผมไปทุกที่ที่อาไป (เสียงสั่น กลั้นหายใจ) ผมพอรู้บ้างว่าอามีโรคประจำตัว คือช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้เจอเลยครับ แต่มียกหูคุยกันบ้าง ตอนทราบข่าวก็งงครับ ตอนนั้นเพิ่งลงจากเครื่อง ‘หน่อง’ (น้องชาย)เป็นคนบอก พอดีหน่องเขาเปิดโทรศัพท์ก่อนเขาเห็นข่าวว่าอาเปี๊ยกเสียครับ (เงียบ ร้องไห้) ช็อกครับ เสียใจ
(สิ่งที่อาสอนและยังใช้จนถึงทุกวันนี้คืออะไร?) เล่นละครไม่ต้องห่วงสวยห่วงหล่อครับ (ร้องไห้) อาบอกว่า ‘มึงไม่ได้เป็นพระเอก มึงเป็นนักแสดงไม่ต้องห่วงหล่อ’ (วันนี้อยากขอบคุณอะไรอาเปี๊ยก?) เยอะเลยครับ อย่างที่ผมบอกว่าอาไม่ได้เอาผมไปสอนเรื่องการแสดงหรืออะไร แต่เอาผมไปอยู่ด้วย พาผมไปนู่นไปนี่ เวลาอยู่กับอาก็จะเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง ค่อยๆ ให้เก็บเรื่องราวชีวิตต่างๆ ให้ประสบการณ์ให้ชีวิต หนักๆ คือการใช้ชีวิตในวงการ เวลาผมเจอเรื่องราวอะไรที่ไม่ดี อาก็จะโทรมาด่า เป็นเหมือนพ่อผมอีกคนหนึ่งครับ คือผมไม่รู้ว่าขอบคุณแล้วมันจะเพียงพอกับสิ่งที่อาทำให้ผมหรือเปล่า ก็ขอบคุณอามากๆ สำหรับทุกๆ อย่างครับ” บอยกล่าว
