มอริส เค รายการ เมย์ เอ๋ โอ๋ Mama s Talk (ทอล์คตัวแม่) เมย์ ปทิดา หรือ เมย์ เฟื่องอารมย์ เอ๋ พรทิพย์ โอ๋ ภัคจีรา

เมย์-เอ๋-โอ๋ น้ำตาร่วงกลางรายการฯ มอริส เค ย้อนเล่าวินาทีชีวิต เกิดมาเพิ่งเคยเห็นหน้าพ่อ

Home / TV Variety / เมย์-เอ๋-โอ๋ น้ำตาร่วงกลางรายการฯ มอริส เค ย้อนเล่าวินาทีชีวิต เกิดมาเพิ่งเคยเห็นหน้าพ่อ

บีบอารมณ์คนดูสุดๆ สำหรับการเปิดใจอีกครั้ง ของนักแสดงเจ้าบทบาทผิวสีลูกครึ่งไทย-อเมริกัน “มอริส เค” ที่ทุ่มเทหัวใจทั้งชีวิตเพื่อตามหาพ่อแท้ๆ หลังเกิดมาไม่เคยพบว่าพ่อแท้ๆของตนเองเป็นใคร และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไหน ในประเทศสหรัฐอเมริกา จนเจ้าตัวใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการตามหาคุณพ่อ ทำ DNA test เทียบหาคู่กับธนาคารดีเอ็นเอที่สหรัฐอเมริกา เพื่อหาคนที่ดีเอ็นเอตรงกัน และในที่สุดก็ได้รับการติดต่อกลับว่าดีเอ็นเอตรงกับคุณพ่อ “Isaiah Roberts” อายุ 80 ปี หลังรอคอยมานานถึง 54 ปี โดยมีคนไทยในสหรัฐ “คุณธัญญ่า” ช่วยประสานงาน และ ตามหาคุณพ่อตัวจริงเสียงจริงให้กับ “มอริส เค” งานนี้เจ้าตัวเลยขอย้อนเล่าโมเม้นท์ประทับใจอีกครั้งผ่านทางรายการ “เมย์ เอ๋ โอ๋ Mama’s Talk” ทำเอาสามสาวพิธีกรถึงกับบ่อน้ำตาแตก น้ำตาร่วงไปกับเรื่องราวสุดซึ้งของแขกรับเชิญ โดยครั้งนี้ “มอริส เค” ได้เล่ารายละเอียดวินาทีสำคัญในชีวิตให้ฟังว่า


“ทุกอย่างเหมือนฝัน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีเรื่องราวของท่านเลย ไม่มีชื่อไม่มีหน้า ไม่มีรูป ไม่รู้ว่าท่านเป็นทหารที่ไหน รู้อย่างเดียวว่าเป็นทหารอเมริกันที่มารบตอนสงครามเวียดนาม แค่นั้นเอง หลังจากนั้นผมพยายามตามหามาตลอดชีวิต รู้คราวๆว่าพ่ออยู่ที่อเมริกาและมีครอบครัวใหม่ พ่อไม่ได้ทิ้งดีเอ็นเอเอาไว้ แต่ดีเอ็นเอที่เจอเป็นดีเอ็นเอของคนอเมริกันซึ่งเป็นญาติกับพ่อ ผมไปเจอญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อ เขาช่วยเหลือผมโดยการให้รายละเอียดและตามหาพ่อให้คนนั้นชื่อคุณธัญญ่า แต่เขาอยู่อีกเมืองหนึ่ง ในวันที่เขาจะให้ผมคุยกับพ่อ เขาขับรถเป็น 100 กิโลเพื่อที่จะให้ผมได้คุยกับพ่อ เขาเมตตากับผมมากๆ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย อันนี้คือความฝันและความหวังในชีวิตผมเลยที่อยากเจอพ่อ และได้เจอแล้ว”
ครั้งแรกที่ได้คุยกับพ่อ หลังจากตามหาและรอคอยมากว่า 54 ปี วินาทีนั้นรู้สึกยังไงบ้าง
“ซี่งวันนั้นที่เราได้คุยกับพ่อ ย้อนไปคือวันที่7 กรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดเราพอดี ตอนแรกก็กลัวว่าพ่อเขาจะไม่อยากคุยกับเรา แต่เราก็แค่อยากได้คุย หลังจากนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้ต้องการอะไร บอกเลยว่าตอนแรกที่ได้คุย เราก็บอกว่าพ่อไม่ต้องกังวลอะไรนะ ผมไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร พ่อก็อยู่กับครอบครัวของพ่อไป ผมก็แค่อยู่ของผม แค่ให้รู้ว่าผมมีพ่อ แค่นั้นเอง และวันที่คุยกับพ่อ พ่อไม่ได้คุยอะไรมาก พ่อแค่จ้องหน้าเราอย่างเดียว หลังจากวันนั้นพ่อก็ส่งข้อความตามมา ที่บ้านฉัน ญาติพี่น้องฉันให้ไปตรวจดีเอ็นเอ ฉันว่าไม่ต้องตรวจแล้วละ ดีเอ็นเอของฉันทั้งหมด อยู่ที่หน้าเธอแล้วละ (พิธีกรแสดงความยินดี พร้อมร้องไห้) วินาทีนั้นเราก็น้ำตาไหล พูดอีกก็จะร้องไห้ มันคือความปลื้มปริ่มและความดีใจของเรา ตลอดเวลา54 ปี เรารู้สึกขาดมาตลอด