มีคดีความฟ้องร้องเรื่องธุรกิจอาหารเสริมกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คดียังไปไม่ถึงไหนด้านบอสของธุรกิจอย่าง ”ปู – ต้นหอม – มะตูม” ต้องออกมาฟาดฟันผ่านสื่อกันคนละยก โดยต่างฝ่ายต่างอ้างมีหลักฐานว่าตัวเองเป็นคนถูก ซึ่งเริ่มจากนางเอกสาว ปู ไปรยา ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนว่าได้ถอนตัวจากธุรกิจที่ทำกับ ดีเจมะตูม-ดีเจต้นหอม แล้ว เพราะที่ผ่านมาต้องคอยออกมาแก้ข่าวลบๆ ของธุรกิจอยู่เพียงคนเดียว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์เท่านั้น ส่วนเรื่องรายละเอียดทั้งหมดขอให้ทนายเป็นคนพูด
ถัดมาไม่กี่วัน ดีเจต้นหอม ศกุลตลา 1 ในหุ้นส่วนออกมาโต้กลับแบบทันควันว่า สาวปู ไม่ได้ถอนตัว แต่เป็นบริษัทที่ทำการปลดออกจากการเป็นบอส พร้อมเป็นโจทย์ยื่นฟ้องฐานผิดสัญญา และ ไม่ให้ความร่วมมือในฐานะเจ้าของแบรนด์ ก่อนยืนยันว่า สาวปู เป็นบอสไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ตามที่อีกฝ่ายให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านั้น เนื่องจากมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ ปู ไปรยา เป็นคนร่างขึ้นมาเอง
นอกจากนี้ยังมีคลิปว่อนอินเตอร์เน็ตเป็นคำพูดของ สาวปู ที่พูดกับตัวแทนว่า ”ปูไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ค่ะ ปู เป็นบอส และเป็นครอบครัวของทุกคน และปูรับประกันว่างานนี้เราจะรวยไปด้วยกัน”
เมื่อฟังคำตอบจากทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเรียกว่าเป็นหนังคนละม้วนกันเลยทีเดียว เพราะข้อมูลที่ออกมาดูไม่ตรงกันเท่าไหร่ แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้จากนั้นไม่นาน ดีเจมะตูม เตชินท์ และ ปู ไปรยา ทำจดหมายเชิญสื่อเข้าฟังการชี้แจงอีกรอบใน วัน เวลาเดียวกันเด๊ะ โดยฝั่ง สาวปู ได้ส่งทนายเป็นคนแถลง เนื่องจากตัวเองติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งทนายของ สาวปู ชี้แจงว่าฝั่ง สาวปู เป็นคนร่างสัญญาขึ้นมาเอง และ คำตอบในสัญญาที่ทำกันคือ ปู ไปรยา เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ไม่ใช่เจ้าของบริษัท ส่วนสาเหตุที่ต้องยกเลิกสัญญา เนื่องจากรู้สึกว่าทางบริษัททำงานไม่โปร่งใส ไม่สามารถตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย ได้ พร้อมยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้เป็นฝ่ายที่ผิดสัญญา และจะไม่จ่ายค่าเสียหายตามที่อีกฝ่ายฟ้องร้อง แต่จะขอสู้คดีที่ชั้นศาลต่อไป
ด้าน ดีเจมะตูม เตชินท์ ยืนยันตามคำพูดของ ดีเจต้นหอม ที่ให้สัมภาษณ์สื่อไปแล้วว่า ปู ไปรยา เป็นบอสไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ รับส่วนแบ่งเท่ากันหมด ส่วนที่อีกฝ่ายมองว่าทางบริษัททำงานไม่โปร่งใส ยินดีให้ตรวจสอบกันได้ ประกาศลั่นไม่เคยคิดจะโกงใครอยู่แล้ว? พร้อมเผชิญแถลงข่าวพร้อมกันต่อหน้าสื่อ เชื่อตอนนี้ทุกคนก็ต่างเชื่อมั่นในหลักฐานว่าตัวเองเป็นคนถูก แต่ท้ายที่สุดแล้วต้องให้ศาลเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก ก่อนยอมรับว่าหลังจากนี้ไปไม่สามารถกลับมาร่วมกันได้อีก เพราะตอนนี้แตกหักถึงขึ้นมองหน้ากันไม่ติดแล้ว
สุดท้ายบทสรุปเรื่องนี้จะจบยังไงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ใครผิดใครถูกทั้ง 3 คนย่อมรู้อยู่แก่ใจดี?