เบนซ์ เรซซิ่ง แพท ณปภา

ยิ่งกว่าฝันร้าย!! เรื่องในคุกของ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามี แพท ณปภา

Home / Hot Gossip / ยิ่งกว่าฝันร้าย!! เรื่องในคุกของ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามี แพท ณปภา

  ร่ายยาวหลาย EP. เลยทีเดียว เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามีของดาราสาว แพท ณปภา โพสต์เล่าประสบการณ์ตอนเป็นผู้ต้องขังลงโซเชียล ถึงวินาทีที่รู้ว่าตนต้องเข้าไปอยู่คุก! หลังศาลไม่ให้ประกันตัวในตอนแรก พร้อมเผยเรื่องที่ไม่เคยบอกใคร โดยเจ้าตัวมีการเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว เสิร์ชหาข้อมูลการใช้ชีวิตในคุก การกิน การนอน ฯลฯ และแอบนอนร้องไห้สะอื้นสั่งลาลูกเมีย นอกจากนั้นยังมีพิมพ์สั่งลาข้อความเอาไว้ในโทรศัทพ์มือถืออีกด้วย

  สำหรับ เบนซ์ เรซซิ่ง หรือ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หลังจากกลายเป็นผู้ต้องขังต่อสู้คดีในคุกอยู่นานกว่าปี จนกระทั่งวันที่ 7 ก.ย. 2561 ทางศาลอาญาก็ได้มีคำตัดสินออกมา คือโทษจำคุก 8 ปี ในคดีร่วมฟอกเงินกับเครือข่าย บอย นาคคำ แต่ศาลยกฟ้องในข้อหาสนับสนุนทำผิดยาเสพติด อนุมัติให้ประกันตัวไปในวงเงิน 1 ล้านบาท มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ต้องใส่กำไลข้อเท้า EM ห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งได้ทำการปล่อยตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ย่านคลองเปรม เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเดียวกัน

  โดยเรื่องราวที่ เบนซ์ เรซซิ่ง โพสต์ลงโซเชียลเล่าถึงตอนเป็นผู้ต้องขังบางส่วนมีดังต่อไปนี้ “๒๙/๐๕/๒๕๖๐ ตึก ตึก ตึก ตึก… เสียงกระทบพื้นจากรองเท้าคอมแบทพื้นหนาของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คนหนึ่งรูปร่างสมส่วนแต่งตัวเนี้ยบกำลังเดินเข้ามาใกล้ ณ.ใต้ถุนศาลอาญารัชดา พร้อมกับแจ้งให้ทราบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอันเรียบเฉย “ศาลไม่อนุญาตให้ประกันนะ” ผมไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร หลังจากที่ผมนั่งรอคอยคำสั่งมากว่า 7 ชั่วโมงพร้อมกับกองทัพนักข่าวที่รอทำข่าวและเก็บภาพตั้งแต่ช่วงเช้า..

  ผมทราบและเตรียมใจมาตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านอยู่แล้ว ว่าวันนี้มีโอกาสมากกว่าครึ่งที่ผมจะไม่ได้กลับบ้านไปเจอหน้าลูกเมียและครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่ง แต่เราก็ไม่ย่อท้อร่วมมือร่วมใจช่วยกันทุกวิถีทางทำให้ดีที่สุด โดยวันนั้นได้ยื่นคำร้องที่ช่วยกันเขียนกันตลอดทั้งคืนพร้อมด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 3,000,000.- บาท แต่ทว่าศาลได้มีคำสั่งยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี..

  ผมเตรียมตัวเตรียมใจเดินทางขึ้นรถกรงรวมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ เพื่อเดินทางไปยังเรือนจำหรือเรียกกันสั้นๆ ว่าคุก..

  เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์แห่งคดี เพียงอยากจะตีแผ่ประสบการณ์เรื่องราวชีวิตอีกด้านมุมหนึ่งหลังกำแพงสูงที่รายล้อมไปด้วยรั้วลวดหนามหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “คุก” ที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากที่จะก้าวเข้าไป แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเราจะรับมือกับมันอย่างไร เด่วผมจะมาเล่าให้ฟัง อย่าดราม่ากันนะ

  “คุก” คืออะไรครับ? ผมเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้าไปสัมผัส แค่ชื่อมันก็ไม่เป็นมงคลเอาซะเลย ไม่อยากที่จะก้าวเข้าไปอยู่ละ แถมมันยังดูน่ากลัวและไกลตัวเอาซะมากๆ ใครจะคิดว่าวันนึงจะต้องมานั่งขึ้นโรงขึ้นศาล ทั้งๆ ที่ศาลอาญารัชดาก็อยู่ใกล้ๆ บ้านนี่เอง ขับรถผ่านเป็นร้อยครั้งพันครั้งแต่ก็ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมาใช้บริการ แต่อย่างว่านะครับชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน จงใช้ชีวิตอยู่อย่างมีสติ ก็คือการตั้งอยู่ในความไม่ประมาท..

  ผมกำลังจะเข้าคุก!! สำหรับคนที่ไม่รู้จักผม หรือไม่ชอบขี้หน้าผมหรืออะไรก็ตามแต่ ยิ่งในทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้คนอินกับโลกโซเชียลมากกว่าชีวิตจริง ก็คงสะใจอยู่มิใช่น้อยที่ได้เห็นผมต้องเดินเข้าตาราง แต่สำหรับคนใกล้ตัวและคนในครอบครัวแล้วนั้นมันเป็นยิ่งกว่าฝันร้ายนะ เมื่อคืนยังนั่งกินข้าวจานโปรดที่แม่ทำให้กินพร้อมถ่ายรูปส่งไลน์ไปอวดแม่ว่ากินหมดจาน ยังนอนกอดลูกน้อยวัย 3 เดือนที่ชอบร้องไห้แหกปากโวยวายเวลาจับอาบน้ำ ยังนอนกอดเมียที่โบ๊ะแป้งพม่าขาวโพลนไปทั่วหน้าพร้อมจะเอาไปชุบแป้งทอดแถมยังกรนเสียงดัง แต่หลังจากวินาทีต่อจากนี้ไป มันยิ่งกว่าในนิยายเสียอีก.

  ผมถอดเสื้อสูท นาฬิกา แหวนแต่งงาน และของมีค่าอื่นๆ คืนให้กับทนายเพื่อฝากให้กับที่บ้าน พร้อมบอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์มือถือที่ตั้งรูปหน้าจอ Wallpaper เป็นรูปไอ้หมาน้อยกำลังยิ้มหัวเราะร่า พร้อมกำชับบอกให้กลับไปเปิดดูในหน้าจดบันทึกที่ผมได้นับเวลาถอยหลังนอนพิมพ์สั่งลาพร้อมปาดน้ำตาเอาไว้ล่วงหน้า ก่อนจะถึงวันนี้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ผมนอนดูรูปถ่ายเจ้าหมาน้อยกำลังยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข แต่มันกลับทำให้ผมยิ่งทุกข์ทรมาณใจอย่างที่สุด ที่กำลังจะต้องจากลาไปอย่างไม่มีกำหนด จนต้องแอบนอนร้องไห้สะอื้น พะฮึ้บๆ ผมลุกไปนอนกอดลูกข้างๆ กลางดึกอยู่เป็นประจำเพื่อซึมซับช่วงเวลาดีๆ นี้เอาไว้ให้นานที่สุด..

  ครืดดดด.. เสียงผู้คุมกำลังเอื้อมมือรูดม่านปิด เตรียมให้ทุกคนถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อค้นร่างกายก่อนจะขึ้นรถไปเรือนจำ เพื่อป้องกันสิ่งของผิดกฏหมายเล็ดลอดเข้าไปโดยเฉพาะยาเสพติดและอุปกรณ์สื่อสาร บางคนก็ให้ญาติซื้อเสื้อยืด/กางเกงขาสั้นมารอไว้เพราะถ้าใครใส่กางเกงขายาวไปจะถูกตัดทิ้งทั้งหมด ส่วนรองเท้านั้นห้ามใส่เข้าไปครับทิ้งหมดเช่นกัน ทันใดนั้นเสียงผู้คุมสั่งให้ลุกขึ้นยืนทีละคน สบัดผม.. อ้าปาก.. กระดกลิ้น.. แบมือ.. คว่ำมือ.. ก้มโค้ง.. แหกตูด.. โกยไข่.. เสร็จก็ใส่เสื้อผ้า นั่งจับคู่ใส่กุญแจมือเสียงดังแกร๊กๆๆ เพื่อใครตอนเด็กๆ เป็นแชมป์วิ่งเปรี้ยวเกิดคึกๆ วิ่งหนีตอนกำลังจะขึ้นรถ ต้องไปวิ่งไล่ตามหากันอีก ก็มาลองวัดดวงกันดูว่าคนกับกระสุนปืนที่ผู้คุมถือคุมอยู่ตรงหน้าประตูรถ อันไหนจะวิ่งเร็วกว่ากัน

  ติ๊ดๆๆ เสียงรถลูกกรงของเรือนจำกำลังถอยมาจอดรอ กลิ่นน้ำมันดีเซลลอยมาเข้าจมูกก่อนที่จะไม่ได้กลิ่นน้ำมันและเสียงเครื่องยนต์อีกยาวนาน รถจอดนิ่งสนิท ผู้คุมสั่งให้ทยอยเดินแถวกันไปขึ้นรถกรงทีละคู่ แต่เย็นวันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันที่ครึกครื้นเป็นพิเศษ เนื่องจากกองทัพนักข่าวมารอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น วันนี้ผมจะไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ผมจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพราะผมยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผมและครอบครัวได้ ผมก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ เสียงชัตเตอร์และแสงแฟลชยิงมาไม่ขาดสาย ผมหันไปส่งสายตาให้ที่บ้านเป็นครั้งสุดท้าย ยิ้มอ่อนบอกย้ำแทนคำพูดอีกทีว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็ได้เจอกัน และเดินก้าวขึ้นรถกรงไป..” เบนซ์ เรซซิ่ง

ขอบคุณ ภาพแลัข้อมูลจาก FB Akarakit Worarojcharoendet และไอจี benzracing

 

 

 

เบนซ์ เรซซิ่ง โพสต์ประสบการณ์ตกเป็นผู้ต้องขังในคุก
เบนซ์ เรซซิ่ง โพสต์ประสบการณ์ตกเป็นผู้ต้องขังในคุก

 

 

เบนซ์ เรซซิ่ง
เบนซ์ เรซซิ่ง

 

เบนซ์ เรซซิ่ง
เบนซ์ เรซซิ่ง