ฮือฮาตาลุกวาวกันสนั่นโซเชียล หลังได้เห็นภาพแฟชั่นสุดสยิว 18+ ของทางหนุ่ม ดิว นัทธพงศ์ หรือ ดิว เดอะสตาร์ 9 ที่เจ้าตัวผันตัวมาเป็นนายแบบสายนี้แบบเต็มตัวให้กับโฟโต้บุ๊กออนไลน์ HABITSMEN แจงตัดสินใจถ่ายเพราะแฟนๆ เรียกร้อง บวกกับต้องการฟิตหุ่นเพื่อรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ แถมยังมีเงินส่งให้ทางครอบครัวอีกด้วย รับตอนถ่ายนั้นต้องเปลือยหมด ทุกอย่างตามภาพเรียลไม่มีตัดต่อ ด้านแฟนสาวไม่หวงเพราะเข้าใจว่าทำงาน ส่วนฟีดแบคหลังภาพเซ็ตนี้ออกมา มีคนดีลขอดูแล ขอซื้อ นัดกินข้าว และเข้ามาคุย มีมาเกือบทุกแนว จากนี้ขอพักงานถ่ายแบบนี้ไปก่อน บอกอยากทำเพลงมีซิงเกิ้ลของตัวเอง หรือเล่นละครบ้าง….
”เข้าแข่งขันเดอะสตาร์ ตอนเข้าวงการ 5-6 ปี แล้ว ตอนนี้ผมอายุ 26 ปีครับ ตอนผมประกวดอายุ 20 ปี ตอนนี้ก็มีงานอีเว้นท์บ้างตามต่างจังหวัด แต่มีน้อยลง
”โซเชียลกรี๊ดรูปแนวสยิวออกมา ครับ ผมก็เขินเหมือนกัน คอนเซ็ปต์ก็คือแฟนๆ เขารีเควสท์มาตั้งแต่ถ่ายครั้งแรก ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับครั้งนี้ซึ่งเขาตามผมมาปีนึงแล้ว แล้วแฟนๆ ก็เรียกร้อง และอีกอย่างเราต้องการที่จะฟิตหุ่นเพื่อต้องการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ”
”เป็นไทรอยด์ 2 ประเภทเลย ใช่ครับ เป็นผอม ผอมจนต้องหนีจากวงการ เพราะกลัวว่าคุณเป็นโรคบางชนิด? ใช่ครับผม ตอนแรกรักษาตัวที่โรงพยาบาลเปาโล ที่รัชโยธิน เขามองหน้าผมก็รู้เลยว่าเป็นไทรอยด์ คอโตขึ้น เราก็ตกใจมาก จากนั้นเขาก็บอกว่าให้ผมหยุดออกกำลังกาย เพราะว่ามันจะทำให้หัวใจเต้นเร็วจะทำให้โรคมันกำเริบ ผมก็เลยต้องหยุด ตอนนั้นผมหยุดทุกอย่างเลยก็กินๆ อย่างเดียวก็เลยอ้วน”
”หลังจากเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ก็หยุดพักแต่ไทรอยด์มันตีกลับเป็นแบบอ้วนแทน? ใช่ครับ หลังจากนั้นผมก็กลับไปอยู่บ้าน เพราะแม่และญาติเห็นเขาก็บอกเดี๋ยวไปดูแลที่บ้านให้ ผมก็เลยตัดสินใจไปอยู่ลำปาง จากนั้นก็ทำอาหารกินเอง ไปรักษาไทรอยด์ที่คลินิกที่ลำปาง ก็ตั้งใจว่าจะฟิตหุ่นแบบจริงจัง ด้วยการทำอาหารกินเองแบบ 4 มื้อ”
”ตอนถ่ายแบบ เขาบอกประมาณนี้แต่ว่ามีอะไรปิดอยู่ มีผ้าขาวบางอะไรอย่างนี้ ซึ่งผมก็คิดว่าแฟนๆ ก็เรียกร้อง และเรามาทางนี้ เรามาทางเซ็กซี่ตั้งแต่เดอะสตาร์ เขามองผมเซ็กซี่ แต่ผมก็ไม่รู้เป็นคนปกติ ภาพที่ยืนมีผ้าขาวบางปิดนิดนึง เรียลครับ เขินมากเลย ต้องขอบคุณทุกคนมากนะครับที่ให้การตอบรับดีมากเลย”
”ตอนถ่ายต้องถอดหมดเลย การทำงานแบบนี้ ถ่ายนู้ด ถ่ายเซ็กซี่ มันถอดเป็นเรื่องปกติ ถามว่าเขินไหมผมเริ่มชินตั้งแต่ถ่ายแบบครั้งที่แล้ว แต่ว่าครั้งนั้นมันไม่ได้เห็นแบบเต็มขนาดนี้ แต่ครั้งนี้เขาต้องการความแรงมากขึ้น ซึ่งผมเป็นคนทำไรไปให้สุด”
”มีคนวิจารณ์ว่าแรงไปไหม มันจะส่งเสริมให้เด็กอนาจารหรือเปล่า จริงๆ ไม่อยากให้น้องๆ คิดอย่างนั้น ใครที่ไม่ชอบก็ขอโทษด้วยที่ทำให้ผิดหวังที่ไปถ่ายอะไรแบบนี้ แต่อยากให้เข้าใจมุมพี่ด้วยว่าพี่มาทางเซ็กซี่ตั้งแต่แรกแล้ว แล้วพี่เป็นคนไม่ตีกรอบอะไรเท่าไหร่ เพราะว่ามองถึงอนาคตแล้วก็มองถึงตัวเอง ยังมีหนี้ค่ารถ ผมซื้อรถ ซื้อบ้าน ก็เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แล้วที่บ้านก็อายุมาก เราก็อยากจะช่วยเขา”
”ดูแลพ่อ-แม่ ครับ ผมเป็นลูกคนเดียวถ้าผมไม่ดูแลก็ไม่มีใครดูแล ค่าตัว แสนกว่าครับพี่ เงินที่ได้ก็คือช่วยที่บ้าน คือตอนนี้ที่บ้านผมอายุเยอะแล้วก็เลยแบ่งให้เขาบ้าง แล้วก็แบ่งไปจ่ายหนี้ ผมซื้อมอเตอร์ไซต์ Harley มันก็มีค่าใช้จ่ายอยู่แล้วกับหนี้ที่บ้าน ซึ่งผมทำงานคนเดียว พ่อ แม่ ไม่ได้ทำงานแล้ว”
”ติดต่อมาขอดูแล พูดตรงๆ เลยว่ามี ถามว่าแนวซื้อเลยมีไหม คือถ้าแนวนี้ผมก็จะคุยกับเขาดีๆ ว่าผมไม่รับ เพราะว่ามันอันตรายมาก ถ้าแค่กินข้าว ทำความรู้จักกันก็โอเคครับ แต่ผมไม่เคยนะ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ติดต่อมาเป็นผู้ชายครับ ถามว่าผู้หญิงแก่ๆ มีไหมก็มีครับ ใครที่เข้ามาหาผมทุกคนก็ต้องขอบคุณครับ อยากให้เป็นกำลังใจให้กันดีกว่า มีคำพูดดีๆ ให้กันในแต่ละวัน เพราะว่าทุกวันนี้มันมีแต่เรื่องเครียดๆ ผมก็เหมือนคืนความสุขให้ประชาชน”
”อนาคตจะเอาดีทางถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่เลยไหม จริงๆ รับได้หมดทุกอย่าง แต่ถ่ายแบบนี้เว้นไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนจะเบื่อเอา ผมอยากทำเพลง อยากเล่นละคร ผมถนัดทางด้านทำเพลงมากกว่า”
”แฟน มีแล้วครับ เป็นผู้หญิง คบกันมาหลายปีแล้วครับ เรื่องถ่ายแบบแฟนเข้าใจว่าผมทำงาน เขาไม่ได้บอกว่าหวงนะ เพราะเขารู้ว่าผมทำงานประมาณนี้อยู่แล้ว เราคบกันมานานเหมือนเพื่อน ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง กับฉายาดิวสามขา จริงๆ ตรงๆ นะ ขนาดก็เท่ากับผู้ชายทุกคนแหละ”
”กลัวมั้ยว่ามาทางนี้แล้วจะกลับไปทำงานอย่างอื่นไม่ได้แล้ว ผมเป็นคนไม่ตีกรอบตัวเอง ผมมองว่าทุกวันนี้มันมีงานหลายอย่างที่น่าสนใจ ผมชอบแสวงหาความรู้อยู่เรื่อยๆ จริงๆ ผมอยากมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้ผมทำให้มีเงินก่อน ให้ตัวเองสามารถเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว สามารถยืนได้ด้วยตัวเองให้มั่นคง แล้วค่อยทำในสิ่งที่ตัวเองรัก”
”ออกมาไลฟ์ผ่านไอจี ออกมาขอบคุณทุกคน แต่จำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง เพราะผมพูดไป ชม. นึง แต่ไม่ได้พูดเหมือนน้อยอกน้อยใจ แต่อยากให้เขาเข้าใจที่ผมมาถ่ายอะไรแบบนี้ คือผมเป็นลูกคนเดียว เราโต และคิดอะไรเอง ไม่มีคนปรึกษา ก่อนหน้านี้ที่ป่วยแล้วไม่มีงานในวงการ ทำยังไง ก็มีเงินเก็บนิดหน่อย แล้วก็ยืมที่บ้านมานิดหน่อย แต่วันนี้เราก็คืนเขาไปแล้ว” ดิว เดอะสตาร์ กล่าว
ขอบคุณ ภาพและข้อมูลจากรายการ คุยแซ่บShow
