เจอมรสุมชีวิตแสนสาหัส และห่างหายจากหน้าจอโทรทัศน์ไปนาน สำหรับอดีตตลกชื่อดัง โชเล่ย์ ดอกกระโดน ล่าสุดผันตัวมาเป็นเน็ตไอดอล ยูทูปเบอร์ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บshow ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต และ ปัจจุบัน ที่กำลังไปได้สวยกับอาชีพใหม่ตรงนี้!!
อดีตตลกชื่อดังเปิดใจ “ถามว่าที่ผ่านมามีงานไหม จริงๆ ก็มีทุกวันนะ แต่เป็นงานบ้าน เพราะไปอาศัยญาติอยู่ต่างจังหวัด แต่งานวงการอ่ะไม่มี ก็คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า เรามันนิสัยเหมือนผู้หญิง อะไรนิดหน่อยก็ชอบคิดมาก ก็เลยอยากจะไปให้ไกลๆ อยู่บ้านพี่น้อง แต่พอไปจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ ทำไมคนนั้นไม่เล่นแบบนั้น ทำไมคนนี้ไม่เล่นแบบนี้ คิดถึง แต่พี่ไม่ได้วิ่งหางานเลย ไม่ได้ไปหาใครเลย ไม่เสียใจนะ มันธรรมดา คลื่นลูกใหม่ ลูกเก่า ใครจะมีชื่อเสียงค้ำฟ้า คือเราหายไปนานพอเรากลับมาจะให้เค้ามาสงสารเมตตาเหมือนเดิม มันเป็นไปไม่ได้”
ได้กลับมาครั้งนี้ถือว่าแจ้งเกิดในวงการอีกครั้ง เพราะมีการสร้างเพจเป็นของตัวเอง “พี่ไม่ได้สร้างเองนะ FC เค้าสร้างให้ ทีนี้มันเกิดจากตอนนั้นพี่ไปงานบุญที่ภาคใต้แล้วพี่ก็ตักข้าวให้กับพี่น้องกินกัน ช่วงนั้นเค้าก็เปิดเพลงอินเดีย พี่ก็ร้องเพลงอินเดียแล้วก็เต้นไป ลูกสาวก็ถ่ายคลิปแล้วเอามาโพสต์หลังจากนั้นสามวัน มีคนดูยอดวิวล้านกว่า ลูกบอกว่าถ้าเป็นวัยรุ่นพ่อเป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว ก็เลยถามว่าแล้วเน็ตไอดอลมันจะได้อะไร ลูกก็บอกว่าก็มีคนมาคุยไง ลูกเค้ารู้ว่าพี่เหงา อยากจะคุยกับคนโน้น คนนี้ เราก็อยากทำมากเลย เลยทำเพจ เฟสบุ๊คก่อน ให้ลูกทำให้ ผ่านไป 6-7 เดือนมีคนตามอยู่ 37 คน”
“เดือนที่ 1-7 มีอยู่ 37 คน พอเดือนที่ 8 ขยับขึ้นมาเป็นหลักร้อย รีบตะโกนเรียกลูกใหญ่เลย ตอนนั้น 300 คน ดีใจมาก เราก็ตั้งใจทำเพื่อคุยกับแฟนๆ นี่แหละ ก็มีคลิปทำอาหาร อาหารแบบบ้านๆ หมดเลย จริงๆ เรื่องสร้างรายได้ไม่ได้คิดเลยนะ มีคนตั้งกล่องเปิดรับบริจาคให้เราก็ไม่เอา มีคนจะส่งเงินมาช่วยค่าทำอาหาร เราก็ไม่เอา ที่ผ่านมาเราไม่มีงาน ลูก เมีย รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วตอนนี้เรายังรบกวนลูกเมียขอเงินมาทำคลิปอีกล่ะ หรือว่าเราจะเปิด อย่างน้อยช่วยนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี เพราะลูกเราเค้าเห็นเรามีความสุข ขอบอกต้นทุนคลิปบางคลิปก็พันกว่า บางคลิปก็ไม่ถึง ก็กะว่าคลิปละพัน 1 เดือนก็ 12,000 บาท รายได้ก็ประมาณหมื่นกว่าๆ เหลือค่าใช้จ่ายช่วยลูกก็ 4-5 พันบาท”
ช่วงที่อดีตตลกดังไม่มีงาน เคยเครียดหนักถึงขั้นเกือบเป็นโรคซึมเศร้า “จริงๆ ก็เครียดทั้งบ้านแหละมั้ง พี่ก็เครียดเหมือนกัน ถ้าเราเห็นลูก-เมียเครียด เราก็พยายามไม่เครียด พยายามหาเรื่องสนุกๆ ตอนนั้น ช่วงมีตังค์พี่ไปซื้อบ้านอยู่ 4.2 ล้าน หลายคนบอกให้ขายบ้านแล้วไปหาเช่าห้องเล็กๆ อยู่ แต่พี่กัดฟันผ่อนบ้าน ส่งไม่เคยขาดเลย ตอนนี้เหลือ 4 แสนกว่าบาทแล้ว”
ขอบคุณรายการ : คุยแซ่บโชว์ ทางช่อง ONE31