ดีไซเนอร์ชื่อดัง หมู พลพัฒน์ อัศวประภา หรือ หมู อาซาว่า โฟนอินผ่านรายการโหนกระแส กรณีเจอกระแสโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องชุดราตรี เหมือนชุดนางรำ และอื่นๆ โดยแบรนด์ Asava รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบชุดราตรีให้กับ นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทย เข้าประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2018” และเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย โดย หมู อาซาว่า เปิดใจมาว่า
หมู “เราก็ทำมาปีนี้เป็นปีที่ 4 ก็ชินแล้ว คุ้นชินกับกระแสอยู่แล้ว ด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอาชีพ เราก็ทำหน้าที่ในที่แจ้ง เป็นเรื่องปกติโดนวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว”
หมู “แรงบันดาลใจทำชุดให้นิ้ง จริงๆ ชุดนี้มีการพูดคุยกันเยอะว่าจะทำชุดลักษณะไหน วางบุคลิก คาแรคเตอร์นิ้งอย่างไรในการประกวด ไม่ใช่แค่ชุดราตรีเท่านั้น ในการเก็บตัวต่างๆ มีการวางกลยุทธ์ต่างๆ ในการนำเสนอตัวคุณนิ้ง สำหรับชุดราตรีในรอบไฟนอล จริงๆ ทางกองประกวดไม่ได้วางโจทย์อะไรให้พี่มากนัก เนื่องจากทำงานมาหลายปีแล้วเขาให้ทำงานอิสระ ชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจ โครงเสื้อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในหลวงร.9 ในช่วง 60 70 เป็นยุคที่ประเทศไทยกำลังเปิดประเทศสู่ตะวันตก เป็นช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าทรงให้ดีไซเนอร์ระดับโลก เข้ามาทำชุดให้ แฝงเอกลักษณ์ความเป็นตะวันออก ช่วงนั้นเป็นช่วงรุ่งเรืองของแฟชั่นไทย เป็นยุคที่คนตะวันตกได้เห็นความงามแบบสากล แบบแฟชั่นชั้นสูง แต่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายตะวันออก เป็นช่วงที่ประเทศไทยได้รับชื่อเสียงและคำร่ำลือมากว่าประเทศไทยสามารถผนวกเอาความงามแฟชั่นในแบบตะวันตกมาผสมกับตะวันออกให้มีเอกลักษณ์ และมีความเฉพาะตัว”
ประเด็นชุดเป็นสีแดงปักเพชร มีการเปรียบเทียบกับนางรำ ทาง หมู อาซาว่า ชี้แจงว่า “สีแดงเป็นสีที่น้องนิ้งเลือกเอง เพราะเป็นสีนำโชคของน้อง ผมคิดว่าเรื่องรสนิยมเป็นสิ่งที่คนมองมากกว่า 100 คนก็ 100 รสนิยม ใครวิจารณ์ยังไง วิจารณ์มากน้อยแค่ไหน จะมีคุณธรรม จริยธรรมในการวิจารณ์มากน้อยแค่ไหน พี่ทำงานมานานแล้ว การน้อมรับคำติชมเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะคำติชมที่มีวิจารณญาณ จริยธรรม และคุณธรรมในการวิจารณ์ ใครอยากเปรียบเทียบยังไงก็เปรียบเทียบได้ เพราะร้อยคนก็ร้อยความคิด เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งหมดที่เราทำกันมาเป็นขั้นตอนการทำงานเฟ้นให้คุณนิ้งได้เข้าประกวดอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ตัวคุณนิ้งก็ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ”
หมู “จริงๆ บอกว่าไม่ทำทุกปี แต่ปีหน้าคงไม่ทำแล้วจริงๆ ปีนี้ตกปากรับคำทำเพราะผู้ใหญ่บอกว่ามีการจัดที่เมืองไทย เราเป็นเจ้าภาพก็อยากให้ทำอีกสักปี แต่พอพูดไปคนก็จะบอกว่าอ้าว ไหนบอกว่าไม่ทำแล้วกลับมาทำอีก แต่คิดว่าคงไม่ทำแล้ว”
ขอบคุณ ภาพและข้อมูลจาก รายการโหนกระแส