ทำเอาแฟนๆ ซีรีส์ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน เกลียดขี้หน้าไปค่อนประเทศสำหรับ แบงค์ ธิติ ที่รับ ไท หนุ่มโรคจิตสุดโหด ที่พลาดท่าฆ่า หมอเต่า จนแฟนคลับเดือด! หวังจะบุกไปเผาบริษัท นาดาว บางกอก ล่าสุดเจ้าตัวไปร่วมงาน เปิดตัวบัตรเครดิต แพลทินั่ม สวัสดีธนาคารกรุงเทพ ณ ลานลิฟท์แก้ว ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้หนุ่มแบงค์ยังเผยถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับประเด็นร้องเพลงเพี้ยน รักติดไซเรน กับเพื่อนๆ นักแสดงนาดาวว่า
วันนี้มาโชว์เต้นด้วย
“ก็ทำเท่าที่ทำได้ครับ เพราะปกติก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องเต้นอยู่แล้ว (ยิ้ม)”
แต่เต้นดีกว่าร้องใช่มั้ย
“จริงๆ ก็ร้องได้ครับ”
คนวิจารณ์ว่าร้องเพลงรักติดไซเรนเพี้ยนทั้ง 4 คนคือ แพรวา ณิชาภัทร, ต่อ ธนภพ, เจเจ กฤษภูมิ และเราด้วย
“ก็พอหลังจากนั้นระยะเวลามันก็ผ่านมาสักพักนะครับ เราก็ได้มีการไปฝึกเรียนร้องเพลงเพิ่มขึ้น และถ้าเกิดใครได้เห็นแพรวาออกงาน เขาก็ได้ไปเรียนร้องเพลง ซึ่งผมว่าก็ทำได้ดีกว่าตอนที่เราเกิดผิดพลาดขึ้นมาตอนนั้นครับ”
เรียกว่าร้องพลาดจริงๆ วันนั้น
“ด้วยครับ และด้วยความตื่นเต้นของพวกเราด้วย เพราะการร้องหลายๆ คนก็อาจจะมีการที่เราซ้อมน้อยกันด้วย”
4 คนก็ไม่เคยร้องด้วยกันมาก่อน ในเพลงนี้ใช่มั้ย
“ใช่ครับ เพลงนี้ต้นฉบับก็คือแพรวากับไอซ์ใช่มั้ยครับ และพอเราทั้ง 4 คนมาร้องก็เป็นอย่างที่เห็น (ยิ้ม)”
ตอนที่ร้องอยู่เราสัมผัสได้มั้ยว่าร้องเพี้ยน
“ก็สัมผัสได้ครับ (ยิ้ม) แต่พอเราอยู่ตรงนั้นเราก็ต้องทำให้เต็มที่ และทำให้โชว์มันไปได้”
ตอนนี้เราก็เลยต้องเซฟตัวเองคือไม่ร้อง แต่ขอเต้นแทน
“จริงๆ ก็ร้องได้นะครับ แต่เขาอยากให้ผมเต้นมากกว่า (ยิ้ม)”
นอยด์มั้ยพอมีคลิปออกมา
“มันเป็นแรงผลักดันให้พวกเรามากกว่าครับ พอมันเป็นสิ่งที่เคยผิดพลาดมา สุดท้ายแล้วการร้องเพลงมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราอยากจะพิสูจน์ว่าถึงเราจะเป็นนักแสดง แต่เราก็ตั้งใจที่จะทำตรงนี้ และเราก็มีการปรับปรุงแก้ไข และจะทำมันออกมาให้ดี ให้แฟนๆ ได้เห็นกันอีก”
แล้วเรา 4 คนได้มีการคุยกันมั้ยหลังจากนั้น
“คุยครับ ผมก็ส่งคลิปให้เจเจดู เจเจก็หัวเราะกลับมา (ยิ้ม) คือเราไม่อยากโทษว่าใครคือต้นเหตุ เราให้กำลังใจดีกว่า คือผมไม่รู้ว่าพอเราเกิดข้อผิดพลาดแล้วจะมาซ้ำเติมกันทำไม เราควรที่จะให้กำลังใจกันและทำตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จะให้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่าเราก็สามารถทำได้”
ได้อ่านคอมเมนต์บ้างมั้ย
“มีครับ ก็ลองอ่านดูบ้างว่าฟีตแบ็คเป็นยังไง ก็รุนแรงดีครับ (ยิ้ม) ผมรู้สึกว่าคนเราก็แสดงความคิดเห็นกันถึงใจดีครับ แต่ผมก็มองว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคลมากกว่า และในโลกโซเชียลก็เป็นพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว ใครจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ตามที่เขารู้สึกเลยครับ”
เรารับมือได้ใช่มั้ย
“ก็รับมือได้ครับ เพราะเรามีเป้าหมายในใจอยู่แล้วว่าเราต้องทำมันออกมาเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไป”
มองว่าคอมเม้นท์ใช้ถ้อยคำรุนแรงไปมั้ย
“มันเป็นสิทธิของเขาครับ เราไม่สามารถที่จะไปบอกเขาได้ว่าแรงไปหรือเปล่า”
ฟีตแบ็คละครจบเราก็โดนเหมือนกัน
“ใช่ครับ ผมไปฆ่าหมอเต่า (ยิ้ม) แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ผมอยากให้น้องหมอกับทานตะวันตายแค่นั้น (ยิ้ม) ตามบทที่เขียนไว้ ตามความต้องการของตัวละครนะครับ แต่ด้วยอุบัติเหตุก็ทำให้เกิดความผิดพลาด ทำให้น้องหมอเต่าตาย ผมก็เสียใจ ตอนที่ดูก็นั่งร้องไห้เหมือนกัน พอถึงตอนท้ายไทด์ก็รู้สึกผิดแล้ว และการที่ได้ทำอะไรไปก็ได้บทเรียนจากเรื่องนี้แหละครับ ก็อย่างที่ผมได้โพสต์ในไอจีส่วนตัวว่าหวังว่าหลายๆ คนก็จะได้บทเรียนจากตัวละครตัวนี้นะครับ”
คนชมว่าเราเล่นเรื่องนี้ได้ดีมาก
“ใช่ครับ เป็นบทที่ท้าทายเราด้วย อีกอย่างเราก็อยากลองบทบาทแบบนี้อยู่แล้ว เพราะไม่เคยได้มีโอกาสทำอะไรแบบนี้ พอได้บทนี้มาก็รู้สึกว่ามันได้ท้าทายความสามารถในการแสดงของเรา เราก็รู้สึกอยากทำออกมาให้เต็มที่และเต็มความสามารถ”
ทำการบ้านเยอะมั้ย
“เยอะมากนะครับ ผมค่อนข้างที่จะจิตตกไปช่วงนึงเลย เพราะพอเป็นคาแรคเตอร์ที่ต้องสูญเสียน้องสาวไป และพอเรามีน้องสาวเราก็ค่อนข้างที่จะอินกับคาแรคเตอร์นี้เหมือนกัน เพราะเรื่องนี้ต้องป่วยทางจิตด้วย เพราะเขาไม่เหลือใครในโลกนี้แล้ว คิดดูสิว่าเราจะทำยังไง แล้วอยู่ๆ ก็ต้องโดนส่งไปอยู่ที่เชียงใหม่กับแม่ของใครก็ไม่รู้”
เรียกว่าจิตตกไปเลย
“มันก็มีแว๊บๆ มา แต่พอเรามีแอ็คติ้งโค้ช มีครูสอนการแสดง เขาก็จะคอยบอกให้เรารู้ว่าอันไหนคือตัวเรา อันไหนคือคาแรคเตอร์”
มีติดคาแรคเตอร์ออกไปในชีวิตจริงมั้ย
“มีครับ คือผมรู้สึกว่าผมอยากทำมันออกมาให้คนลืมภาพเดิมๆ ผมอยากเข้าให้ถึงตัวละครตัวนี้จริงๆ ก็เลยมีการเรียนการแสดงค่อนข้างที่จะหนักเลย”
ติดใจกับบทแบบนี้มั้ย
“ชอบมาก คือไม่ได้ติดใจกับบทซาดิสต์นะ แต่ผมรู้สึกว่ามันท้าทายดี และอีกอย่างคือเราได้จัดการกับตัวเราด้วย และข้อดีของการเป็นนักแสดงก็คือเราได้รู้สึกถึงการสูญเสียว่าเป็นยังไง เราจะได้เข้าใจโลกนี้มากขึ้นด้วย”
มันกลายเป็นความกดดันในเรื่องต่อไปมั้ย เพราะคนคาดหวังในผลงานของเรา
“ผมมองว่ามันเป็นความท้าทายมากกว่า และมันก็เป็นความสนุก เพราะถ้าเราทำอะไรแต่เดิมๆ ก็คงน่าเบื่อ”
คนบางส่วนบอกว่าไม่พอใจตอนจบ จะไปเผานาดาว
“อย่าไปเผาเลยครับ ผมยังอยากทำงานอยู่ (ยิ้ม) และข้อมูลในนั้นก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกันครัย (หัวเราะ) แต่พี่ย้งตอนนี้อยู่ต่างประเทศนะครับ (ยิ้ม) คนคอมเม้นท์เขาก็คงอินกับบทแหละครับ ก็ดีใจที่ทุกคนอินนะครับ หวังว่าจะติดตามผลงานของพวกเราต่อๆ ไปครับ”
อยากลองบทบาทไหนอีก
“ล่าสุดเพิ่งอ่านเรื่องอันธพาล 2499 มา ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเป็นปุ๊ ระเบิดขวด เป็นแดง ไบเล่ย์ดูบ้าง น่าจะสนุกดี (ยิ้ม)”
แสดงว่าช่วงหลังๆ เราอยากเล่นแนวร้ายๆ ไปเลย
“ก็ไม่ขนาดนั้นครับ มันเป็นแค่สิ่งที่นักแสดงก็อยากลองทำหลายๆ บทบาทอยู่แล้ว”
เรื่องนี้สอนอะไรเราบ้าง
“ก็หลายอย่างนะครับ อย่างแรกก็คือเรื่องการเล่นฟิตเนสเพราะต้องถอดเสื้อในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างยากแล้วเหมือนกัน และอีกอย่างเรื่องของคาแรคเตอร์ เรื่องของบทบาทไทด์มันก็สอนให้เรารู้สึกแคร์คนรอบข้างมากขึ้น อย่างเช่นประโยคที่ว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เรื่องนี้ก็ได้เห็นแล้วว่าการที่เราจองเวรกันมันเป็นยังไง”
คนก็เปรียบเทียบเรากับคนที่แสดงเป็นโจ๊กเกอร์ในหนังฮอลลีวู้ดเลย
“ผมยังห่างชั้นกับโจ๊กเกอร์เยอะมากๆ เพราะการแสดงเขาค่อนข้างโหดมากเหมือนกัน ถ้าเรามีโอกาสก็อยากรับบทอะไรแบบนั้นเหมือนกันครับ”
มีติดคาแรคเตอร์ออกมาข้างนอกมั้ย
“ก็มีบ้างครับในช่วงแรก แต่เรารู้ว่าอันไหนคือความคิดของคาแรคเตอร์ อันไหนคือความคิดของตัวเรา ตอนช่วงแรกๆ ผมยังติดเดินเป๋อยู่เลย (ยิ้ม) เพราะผมกลัวจะแสดงไม่เหมือน เพราะในบทต้องประสบอุบัติเหตุจนขาเราเป๋ ก็เลยลองใช้ในชีวิตประจำวันตัวเองดูว่าจะเป็นยังไง”
จริงๆ ความคิดเห็นส่วนตัวเราอยากให้ทานตะวันคู่กับใคร
“ส่วนตัวผมทีมหมอเป้งนะ (ยิ้ม) เพราะผมรู้สึกว่าทานตะวันผ่านอะไรกับหมอเป้งมาเยอะ แล้วก็รู้สึกว่าดูมีอนาคต (ยิ้ม) เพราะว่าน้องหมอเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง แต่ก็แล้วแต่มุมมองคนครับ คนเราก็เลือกแสดงความคิดเห็นได้อยู่แล้วว่าชอบตอนจบแบบไหน แต่พอละครทำตอนจบออกมาแบบนั้นก็ต้องจบอย่างนั้นครับ”
เห็นเข้าฟิตเนสบ่อยมาก
“ก็ถ้ามีเวลาครับ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเท่าไหร่ เพราะว่าทำงานเยอะเหมือนกัน”
ซิกแพ็คยังอยู่ใช่มั้ย
“อยู่ครับ (ยิ้ม) เราเล่นมาแทบตาย หายไปอาทิตย์เดียวก็หายหมดแล้ว ตอนนี้ผมก็แผละแล้วเนี่ย”