ท่าทางจะยังไม่จบง่ายๆ สำหรับผู้กำกับชื่อดัง พชร์ อานนท์ กับนักแสดงในสังกัด นิก คุณาธิป หลังจากที่เปิดฉากฉะกันไปมา กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล เมื่อทางฝั่งหนุ่ม นิก ออกมาโพสต์ประกาศขอคืนสัญญา แถมยังทวงเงินค่าโปรโมทหนัง ในขณะที่ พชร์ ก็โต้กลับว่าไม่เคยโกง พร้อมกับเดินหน้าฟ้องหนุ่ม นิก ในข้อหาหมิ่นประมาทอีกซะด้วย
จนเรื่องราวผ่านมา และไม่นานนี้หนุ่ม นิก ได้โพสต์ภาพนกพิราบ ประกาศเป็นอิสรภาพ พร้อมยังโพสต์ขอบคุณ ทนายตั้มและทนายโจ้ที่ช่วยเหลือ ซึ่งก็มีหลายคนเข้ามาให้กำลังใจ แต่ในจุดนี้ทางด้าน พชร์ ได้ตอกกลับว่าคิดไปเองรึเปล่า เพราะทำแบบนั้นไม่ได้ โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในงาน คอนเสิร์ต “SBFIVE The Moonlight Concert” ว่า
“สัญญา นิก คุณาทิป ยังเหลือ 3 ปี อีกฝ่ายยกเลิกสัญญาเองไม่ได้ เพราะตนไม่ได้ทำผิดสัญญา ถ้าเห็น นิก ไปรับงานอื่น จะฟ้องผู้ว่าจ้าง เนื่องจาก นิก ยังเป็นเด็กให้สังกัด ถ้า นิก คุณาทิป อยากยกเลิกสัญญา ต้องจ่าย 2-3 ล้าน เพราะกว่าจะปั้นมาให้คนรู้จักหมดเงินไปกว่า 10 ล้าน “ ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
“ตอนนี้เรื่องหมิ่นประมาทยังอยู่ในศาลอยู่เลย คือน้องเขาคิดง่ายๆ ทำไมดาราคนอื่นเขาไม่เคยมีปัญหากับพี่เลย สัญญาไม่ใช่จะยกเลิกก็ยกเลิกได้ เพราะพี่กว่าจะสร้างเขามาได้ก็ใช้เงินเป็นล้าน สัญญายังไม่ยกเลิก ถ้าคิดจะเอาสัญญาคืน หรือที่เขาเรียกว่าฉีกสัญญา ก็ต้องมีค่าคืนสัญญามา เราไม่ได้ฟ้องจะเอาเงินอะไรกับเด็กหรอกครับ เด็กคงไม่มีเงินให้เรา แต่เราจะฟ้องคนที่ว่าจ้าง”
แล้วที่เขาออกมาบอกว่าอิสระแล้ว? “อันนั้นพี่ไม่รู้ เพราะว่าสัญญามันยังอยู่กับพี่ ทนายความเขาก็ดำเนินเรื่องอยู่ มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ สมมติมีดาราคนหนึ่งเซ็นสัญญาอยู่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ แล้วมาบอกฉันขอยกเลิกสัญญา ประกาศยกเลิกแบบนี้ ไม่มีใครเขาทำกัน ไม่งั้นมันจะมีสัญญามาเพื่ออะไร”
แสดงว่าก่อนที่เขาจะประกาศอิสระ คือยังไม่ได้คุยกับทางเรา? “ไม่เคย ไม่เคยได้คุยกันตั้งแต่ที่เขาออกมาโพสต์ด่าพี่ตั้งแต่วันนั้น จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีการโทรศัพท์มาคุย มาขอโทษอะไรทั้งสิ้น พี่คิดว่าเขาน่าจะคิดไปเอง ทนายก็บอกเขาคิดไปเองรึเปล่า ก็ถ้าเขาไปรับงานอะไร ก็ฟ้องคนที่จ้าง”
กระบวนการตอนนี้อยู่ขั้นไหน? “คือตอนนี้ทางพี่เป็นโจทก์ ฟ้องหมิ่นประมาทเขาอยู่ ที่เขาออกมาด่าพี่ คือข้อหาเดียว ไม่เกี่ยวกับสัญญา ที่ฟ้องนี่มีแต่เรื่องหมิ่นประมาท”
ซึ่งเรื่องทั้งหมดตนก็ให้ทาง ทนายเดชา จัดการไป ทางทนายความก็ยื่นโนติสไปแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันไม่มีใครทำในโลกนี้ ส่วนตนเองก็ทำงานปกติ ตอนนี้กำลังถ่ายหนังเรื่องพจมานสว่างคาตา เสร็จก็จะเปิดหนังวัยรุ่นต่ออีก
ทั้งนี้เจ้าตัวกล่าวต่อว่า ถ้าอีกฝ่ายจะมาขอโทษ “ก็ต้องไปคุยกับทนายความ เพราะรู้สึกว่ามันสายไปแล้ว”
ขอบคุณรูปภาพจากIG: @nickkunatip