กลายเป็นประเด็นหลังจากนักแสดงหนุ่ม วิน เมธวิน เปลี่ยนใจไม่ผ่อนผันเกณฑ์ทหาร และเลือกจับใบดำใบแดง แต่ที่เขตนั้นมีคนสมัครเต็ม ซึ่งหลายคนสงสัยว่ารู้ล่วงหน้ามาก่อนหรือเปล่าถึงตัดสินใจไม่ผ่อนผัน งานนี้ วิน เมธวิน ยืนยันไม่รู้ล่วงหน้า ที่เปลี่ยนใจไม่ผ่อนผันเพราะเรียนจบแล้ว อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้เรียบร้อย เตรียมใจถ้าได้เป็นทหารจริงก็พร้อมทำหน้าที่ชายไทย หลังจากนี้ลุยทำงานต่อไป
ซีรีส์เพราะเรายังคู่กันเป็นยังไงบ้าง
“ตอน 1 คิดว่าสนุกแค่ไหน ตอนพิเศษสนุกกว่าเดิมมากครับ เรียกว่ามันแทบจะเป็นตัวละครนั้น 100% ตอนผมเล่นเป็นไทน์ และพี่ไบร์ทเล่นเป็นสารวัตร ทุกตัวละครมีความพัฒนาโตขึ้นเป็นตัวละครได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จะได้เห็นในความโตขึ้นปีนึงในแต่ละตัวละคร”
ฉากเลิฟซีนจะมีให้แฟนคลับได้มโนขนาดไหน
“โอ้โห สุดๆ ครับ (ยิ้ม) บอกได้แค่นี้จริงๆ”
เมื่อกี้ไบร์ทบอกว่าอะไรที่ไม่ได้เห็นในซีซั่น 1 อันนี้จะได้เห็น
“ถูกต้องครับ พี่ไบร์ทพูดถูกแล้วครับ”
ของเราจะได้เห็นถอดเสื้อเหมือนซีซั่น 1 มั้ย
“ต้องรอดูครับ”
เขินมั้ยตอนเล่น
“เขินมากครับ เขินกว่าเล่นตอนแรกอีกครับ”
พูดถึงเรื่องเกณฑ์ทหารมา
“ใช่ครับ เรียบร้อยแล้วครับ เพราะคนสมัครเต็ม วินเลยไม่ได้สิทธิ์ในการจับใบดำใบแดง วันนั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องไปทำหน้าที่ตรงนั้นครับ วันนั้นแค่เราไปทำหน้าที่ครับ เป็นปีแรกที่ไปเลยครับ”
ทำไมเราถึงเลือกจับใบดำใบแดง
“คือตอนแรกผมได้ลงชื่อผ่อนผัน เพราะตอนแรกคิดว่าเรียนยังไม่จบก็เลยไปทำเรื่องผ่อนผันไว้ก่อน กันว่าเผื่อเราต้องติดเรียน แต่พอเรียนจบแล้วทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ตัดสินใจว่าไปจับเลยครับ”
ทำไมถึงตัดสินใจจับในขณะที่เรากำลังดังมากเลย
“เพราะผมคิดว่ายังไงเราก็ต้องทำหน้าที่นี้อยู่ดีครับ สู้เราทำให้เสร็จไปเลยดีกว่า ถ้าเราเป็นก็เป็น ถ้าเราไม่ได้เป็นก็ทำงานต่อ คือผมเรียนจบมาสักพัก จบมาพอดีครับ”
หลายคนสงสัยว่าเราตัดสินใจแบบนี้เพราะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเขตนี้มีคนสมัครเต็ม
“ไม่รู้ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ครับ ตอนนั่งอยู่ตรงนั้นยังถามอยู่เลยว่าคนสมัครเต็มหรือเปล่า เขาบอกว่ายังไม่เต็ม ก็นั่งรอลุ้นไปเหมือนกัน”
ลุ้นมั้ยถ้าคนสมัครไม่เต็มแล้วต้องจับใบดำใบแดง ถ้าโดนจริงๆ
“คือถ้าโดนเป็นทหารจริงๆ ก็รู้อยู่แล้วครับ มันเป็นหน้าที่ เราต้องทำตามหน้าที่ของคนไทยอยู่แล้วครับ ถามว่าเสียดายโอกาสมั้ย คือมันเป็นหน้าที่ของคนไทย ผู้ชายไทยทุกคนต้องทำ คิดว่าเราตัดสินใจดีแล้ว เราทำตรงนี้ก็ได้ ถ้าเกิดเราเป็นก็เป็น เตรียมใจไว้แล้วครับ”
วินได้ตั้งรับกับคอมเม้นท์ต่างๆ ยังไงบ้าง เขาว่าเรารู้ล่วงหน้า
“ไม่รู้ครับ อันนี้ไม่รู้จริงๆ กับคอมเม้นท์ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเราไม่รู้จริงๆ”
ครอบครัวว่ายังไงบ้าง
“ครอบครัวก็เห็นด้วยครับ เพราะผมเป็นคนบอกเองว่า เราทำหน้าที่ตรงนี้ให้จบเลยดีกว่า ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เราทำหน้าที่ของคนไทยตามกฎหมายให้จบดีกว่าครับ ถามว่ากลัวมั้ย เหมือนเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องเป็นตรงนี้ถ้าเราไม่ได้เรียน รด. ถ้าเป็นเราก็ต้องเป็นครับ”
ถ้าเป็นจริงๆ คิดไว้มั้ยว่าเรื่องงานเราจะทำยังไง
“คิดว่า ผมยังอายุน้อยด้วยแหละ ถ้าเราได้เป็นตอนนี้ เราออกมาก็ยังได้ทำงานต่อ ถ้าเราโตแล้ว ผ่อนผันไปแล้วเป็น ช่วงนึงเราอาจจะหายไปเลยครับ”
ได้ดูคอมเม้นท์จากแฟนคลับบ้างมั้ย
“ดูบ้างครับ เขาก็ดีใจที่ผมยังได้ทำงานให้เขาได้เห็นหน้าเห็นตากันต่อ”
ปรับตัวได้หรือยังกับความดังที่ทำให้คนจับตามอง
“เริ่มปรับตัวได้แล้วครับ การใช้ชีวิตเปลี่ยนแน่นอนครับ เราทำอะไรก็ถูกจับตามองมากขึ้น มีคนมองเรามากขึ้นครับ เราก็ต้องพยายามปรับตัวให้ดีที่สุด”
เพื่อนเราโดนกระแสดราม่าค่อนข้างเยอะ เรากลัวมั้ยว่าจะโดนขุดเรื่องราวในอดีตมาบ้าง
“ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรครับ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ไม่ว่าอะไรจะมาเราก็เดินหน้าต่อ”
เราซัพพอร์ตไบร์ทยังไงตอนเขาเจอดราม่าหนัก
“ตอนที่เขาเจอเราก็มีคุยกันครับ ผมก็มีโทรไป ไลน์ไปว่าเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย”
ชินกับวงการบันเทิงหรือยัง
“เริ่มชินแล้วครับ กำลังปรับตัวอยู่ครับ”
ที่ผ่านมาคนแซวว่าเราเป็นคุณหนู คนแซวบ้านเป็นคฤหาสน์
“ไม่ครับ บ้านธรรมดานี่แหละครับ”
เขินมั้ยเวลาคนแซวเยอะๆ คนอยากไปเที่ยวบ้านวิน
“ก็เขินครับ คือผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มันก็คือบ้านธรรมดาหลังนึงเลยครับ มันก็ไม่ได้มีอะไรเลยครับ”
มีคนบอกว่าอยากกักตัวที่บ้านวิน
“ครับผม (หัวเราะ)”
เรารู้สึกยังไงหลายคนมองว่าเราเป็นลูกคุณหนู
“ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนูเลยครับ มองว่าเป็นคนธรรมดาที่ต้องทำมาหากินเหมือนคนอื่นครับ”
เพื่อนๆ พี่ๆ แซวเป็นคุณหนูวิน
“ผมไม่ได้เป็นคุณหนูมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมก็เป็นวินธรรมดา คนธรรมดานี่แหละครับ เขาก็คงแซวเล่นๆ ไม่ได้ขนาดขอว่าอย่าแซว ไม่ได้ขนาดนั้นครับ รู้ว่าเขาเล่นๆ ขำๆ ครับ”
