จากกรณีที่นาย ณพสิน แสงสุวรรณ หรือว่า หนุ่ม กะลา นักร้องชื่อดัง ถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ ในฐานความผิดละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณะชน สาเหตุก็มาจากว่านักร้องหนุุ่มคนดังได้นำเพลง “ยาม” ไปร้องเล่นคอนเสิร์ตที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และอีกหลายๆคอนเสิร์ตด้วยเป็นจำนวนหลายครั้ง โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์ ทางเจ้าของลิขสิทธ์จึงได้ดำเนินการเข้าแจ้งความร้องทุกข์
ซึ่งวันนี้เมื่อเวลา 14.30 น. ทางด้านนักร้องหนุ่มคนดังได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่สน.บางเขน โดยนักร้องดังยอมรับผิดทั้งหมด และกล่าวว่าเป็นความผิดพลาดของตนเอง พร้อมทั้งชี้แจงว่าไม่ได้หนีหรือนิ่งเฉยตามที่เป็นข่าว เพราะตั้งแต่รู้เรื่องก็นัดอีกฝ่ายมาเจรจาแต่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่มา ซึ่งตนยินดีจ่ายแต่ขอความเมตตาทางอีกฝั่งในเรื่องของค่าเสียหายที่ต้องชดใช้ว่าให้เป็นไปตามสมควร โดยนักร้องดังได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“ก็วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเพลงยามที่ผมนำไปร้องนั้นก็ประมาณ 44-47 ที่ ผมโดนแจ้งความทุกที่ที่ผมไปร้อง ก็ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนปี่ที่แล้ว ถึงวันที่ 8 มกราคมปีนี้ คืออย่างแรกต้องขอโทษก่อนเลยเพราะมันเป็นความผิดพลาดของผมเองที่เข้าใจว่าทางแกรมมมี่ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงนี้มาแล้ว ผมเห็นว่าลาบานูนย้ายมาอยู่แกรมมี่ผมก็นึกว่าซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว ซึ่งผมก็นำเพลงมาเล่นโดยที่ไม่รู้ จนถึงวันที่ 10 มกราคมถึงรู้ว่าผมถูกแจ้งความเกิดขึ้น ซึ่งถูกแจ้งความไป 40 กว่าที่แล้ว ผมก็หยุดเล่นตั้งแต่วันนั้นทันทีเพราะรู้ว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์เขา ผมยอมรับว่าผมผิด รู้ว่าโอเคเราคงต้องมีการเสียตังค์ค่าลิขสิทธิ์ให้เขาแน่”
(มีข่าวว่าทางอีกฝั่งพยายามติดต่อเรามาตลอดแต่เราบ่ายเบี่ยง?) “อันนี้เป็นเรื่องที่ผมต้องพูดแล้วว่าตั้งแต่ผมรู้ว่าผมถูกออกหมายจับจากสน. พัทยา ผมก็ให้ผู้จัดการเป็นคนคุยและก็นัดเขา แต่ว่าเขาไม่มานะครับ ตอนนั้นน่าจะประมาณปลายๆมกราคมนะครับ ผมก็เลยให้ผู้จัดการนัดมาไกล่เกลี่ยที่สน. สมุทรปราการ ผมก็ไป ซึ่งเขาไม่ได้มา ผมก็เลยพยายามติดต่อทางโทรศัพท์หาความตรงกลางเรื่องตัวเลขว่าผมต้องจ่ายเท่าไหร่ แต่ว่ามันหาตรงกลางไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมไม่ได้หนีเลย ถ้าดูจากคิวงานผมบอกเลยว่าผมหนีไม่ได้หรอกครับ งานมันมีทุกวัน”
(จากนี้ต้องทำยังไงต่อ?) “คือก็ขอความเมตตาจากทางเขานะครับ ขอให้เขาเมตตาเราที่สุด เพราะว่าสิ่งที่เรียกร้องมามันสูงเกินไปกับความเป็นจริง จะด้วยความที่เราตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เพราะผมไม่ได้หนี แต่อยากให้มันเป็นไปตามขั้นตอนและมาตราฐานการเรียกเก็บจริงๆ มากกว่าการเรียกเก็บที่แบบว่าโห้ๆสูงและมหาศาลขนาดนั้น”
(บางที่ที่โดนหมายจับเพราะไม่ได้รับหมายเรียกใช่มั้ย?) “ผมขอเล่าเรื่องหมายเรียกก่อนนะครับ คือตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหมายเรียกมาถึงบ้านเรา อย่างเช่นหมายเรียกล่าสุดมาถึงบ้านผม 8 ใบ ซึ่งใน 8 ใบนั้นมีหลายใบที่ผมจะต้องไปพบแต่มันครบกำหนดหมดแล้ว คือมันหมดอายุแล้ว ก็เลยไปถามพนักงานสอบสวนก็เลยเข้าใจว่าขั้นตอนของการส่งจดหมายเรียกมันจะล้าช้านิดหนึ่งเพราะว่าส่งธรรมดา อันนี้ผมเข้าใจในเรื่องนี้ แต่ในเคสของสน. พัทยาที่ออกหมายจับ ซึ่งตอนที่ผมรู้เรื่องผมก็ติดต่อพี่เขาแล้วว่าให้พี่เขามาคุย แต่พี่เขาไม่คุย พอเขาไม่คุย แล้วก็ยังไงไม่รู้จนทำให้เกิดหมายจับเกิดขึ้น ตอนนี้ก็เลยยังหาข้อสรุปไม่ได้”
(หลังจากนี้จะร้องเพลงอะไรต้องระมัดระวังพิเศษมั้ย?) “ก็ต้องระมัดระวังมากๆครับ แต่ส่วนหนึ่งก็ดีใจที่เกิดเรื่องนี้กับผม เพราะว่าก็อยากให้คนไทยตระหนักถึงเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะทุกๆวันนี้ทุกคนก็มองว่าในเรื่องของเพลง หรือเรื่องลิขสิทธิ์ของทางปัญญามันเป็นของฟรี อย่างตัวผมที่เป็นนักร้องถ้าทำผิดมันก็ต้องจ่ายและก็ว่าไปตามผิดเช่นกัน ซึ่งจริงๆในส่วนของโชว์ตามที่ต่างๆ มันเป็นส่วนของผม ทางค่ายจะไม่เข้ามายุ่ง เข้ามาแทรกแซงการทำงานของผมเลยครับ พอวันนี้มันเกิดเรื่องขึ้นมาเนี่ยเราก็รู้สึกว่าค่ายไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ผมก็ควรจะต้องจัดการมันด้วยตัวเองแต่ก็ขอคำปรึกษาพี่ๆในค่ายอยู่แล้ว”
(เรื่องของคอนเสิร์ตต่างๆ ได้รับผลกระทบมั้ย?)“ไม่มีครับก็ยังเหมือนเดิม ส่วนแฟนๆก็มาให้กำลังใจเยอะ อย่างเมื่อคืนที่ไปเล่นคอนเสิร์ต ซึ่งร้านอยู่ริมถนนนะครับ คนที่ไม่ได้ซื้อบัตรก็มาดูกันเต็มถนนไปหมด ทุกคนมาให้กำลังใจสู้ๆ ครับก็ขอบคุณทุกคนครับ”