กำลังมีประเด็น! หลังมีการเลิกราของหนุ่ม ฌอห์ณ จินดาโชติ กับสาว ยิปซี คีรติ แถมมีการพาดพิงเรื่องมือที่สามไปถึงสาว พิม พิมประภา ส่วนอดีตอย่างดาราสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ก็ไม่รอดสายตาชาวเผือก หลังไปคอมเมนต์ในไอจีของสาวยิปซี จนคนมองว่าเป็นการแบ่งข้าง ไม่เท่านั้นวันนี้(25 ต.ค.) เธอยังรับอีเว้นท์เดียวกับสาวพิม งานนี้สาวเอสเธอร์ จึงต้องเคลียร์รัวๆ มา ดังนี้
”คอมเมนต์ในไอจียิปซี ไม่ได้ให้กำลังใจค่ะ คอมเมนต์นั้นเราคอมเมนต์ว่าน่ารักค่ะ ใต้อินสตาแกรมของพี่ยิปซี แต่อันนั้นไม่ใช่คอมเมนต์ล่าสุดด้วย ก่อนหน้านั้นก็มีค่ะ มันตรงจังหวะที่เขามีเรื่องราวกัน ค่ะๆ คนอาจจะพอโยงไปก็เป็นไปได้ค่ะ แต่รูปนั้นเราเมนต์เพราะน่ารักจริงๆ ค่ะ”
”กับยิปซี เคยร่วมงานค่ะ ครั้งนึงตอนเรื่อง เล่ห์รตี นานแล้วและก็ตอนเรื่อง เพื่อเธอ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอค่ะ รู้จักกัน ณ การทำงานค่ะ แต่ถ้าไปแฮงค์เอ้าท์หรือไปกินข้าว ก็จะไม่ค่อยได้ไป คนจับโยงกับเรื่อง ฌอห์ณ-ยิปซี อย่าโยงเลยค่ะ มันนานมากๆ แล้ว เราก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วยแล้ว เราคอมเมนต์เพราะรูปนั้นคือน่ารักจริงๆ”
”ก่อนหน้านี้กับยิปซี ที่ห่างๆ อาจจะเพราะเห็นว่าไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันและไม่ได้ร่วมงานกัน และอาจจะเพราะมีข่าวพอดี ซึ่งจริงๆ เราก็กดไลค์ตามปกติ แต่พอมีข่าวเลยเป็นที่สังเกตมากกว่าปกติ เลยเอามาโยงได้ คนบอกว่าเลือกข้าง อย่างที่บอกเรื่องมันนานมากแล้ว เราไม่เกี่ยวแล้ว เรื่องมันประจวบเหมาะพอดี ส่วนงานนี้ก็ติดต่อเรามานานมากแล้ว ก่อนที่จะมีข่าวด้วย”
”พอรู้ว่าจะต้องมาร่วมงานกันกับพิม ไม่กังวลค่ะ เพราะในข่าวนี้ก็ไม่มีเรา อย่าเอาเราเข้าไปโยงเลย มันไม่เกี่ยว มันนานมากแล้วที่เคยมีปัญหา แต่ตอนนี้เราก็ทำงานปกติ ใช้ชีวิตปกติแล้วค่ะ และเราสามารถร่วมงานได้กับทุกคนค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พูดคุยเรื่องข่าวกับยิปซี ไม่มีเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกมันไม่ใช่เรื่องของเราเลย ถ้าจะคุยก็เป็นการเสียมารยาท เลยไม่คุยเรื่องข่าวเลย เราแค่ได้อ่านข่าวตามโซเชียล กับพี่ฌอห์ณเราก็ไม่ได้คุยอะไร ไม่ได้ติดต่อกันเลย”
”พอมีข่าวนี้หลายๆ คนก็กลับมาเข้าข้างเรา ก็(หัวเราะ) ตอนนี้ความรู้สึกโล่งมาก ตอนนั้นมรสุมหนักมาก เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่คนอื่นเขาไม่ได้อยู่ในจุดที่เข้าใจเรา เป็นคนที่เสพข่าวแล้วไม่ได้เสพสองฝั่ง แต่เรื่องมันนานมากแล้ว เอสก็รู้สึกคิดถูกแล้วที่ยึดสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่ามันจะไม่เห็นผลในเร็วๆ นี้ แต่ว่ากาลเวลามันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่จำเป็นว่าคนทั้งโลกต้องเข้าใจ แต่เรายึดถือในสิ่งที่ถูกต้องและทำในสิ่งที่ถูกต้องแค่นี้ก็โอเคแล้ว และเอสได้บทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้เยอะมากจริงๆ และทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เรื่องนี้มันเปิดหลายมุมมองมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้อยากให้ตัดสินว่าฝั่งไหนถูกหรือผิดเพราะเรื่องมันนานมากแล้ว เราแค่รู้สึกว่า เวลาย้อนกลับไปแล้วถึงบางอ้อ ถึงว่าทำไมตอนนั้นเป็นแบบนั้น ก็รู้สึกดีใจที่คนเข้าใจเรามากขึ้น ไม่ได้มองเราผิดไป มองเราน่าเกลียด มองเราไม่ดีจากข่าวอย่างเดียวค่ะ”
”บอกคนที่เข้าใจผิด ขอบคุณนะคะ เอสได้บทเรียน และรู้สึกว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกัน มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น” เอสเธอร์ กล่าว
