ข่าวบันเทิง ปมดราม่าทัพย์สิน ลูกชายแฉ เอ๋ ไพโรจน์ แย่งบ้าน

ฟังจากปาก เอ๋ ไพโรจน์ หลังลูกชายแฉแย่งบ้าน! ลั่น! พ่อไม่ทำร้ายลูก-อโหสิกรรมให้

Home / Omgossip / ฟังจากปาก เอ๋ ไพโรจน์ หลังลูกชายแฉแย่งบ้าน! ลั่น! พ่อไม่ทำร้ายลูก-อโหสิกรรมให้

  จากกรณีที่ นายรวิกร สังวริบุตร หรือว่า พีท ลูกชายวัย 22 ปี ของอดีตพระเอกดัง ไพโรจน์ สังวริบุตร ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงเรื่องราวที่พ่อทำการถอนชื่อคุณแม่คือ น.ส. กรชวัณณ์ ปิ่นจุฑานนท์ ที่หย่าขาดกันไปแล้วออกจากทะเบียนบ้าน จนกลายเป็นดราม่าเรื่องสิทธิ์ครอบครองบ้าน แถมยังดูเป็นลูกออกมาแฉพ่ออีก ทั้งนี้เราได้ติดต่อไปทางอดีตพระเอกเอ๋ ไพโรจน์ โดยเจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า

  คือเอาจริงๆ แล้วเนี่ยไม่ค่อยอยากจะตอบโต้อะไรทั้งสิ้นเลยนะ เพราะเราเกิดมาในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธนะ การที่ลูกอยู่ๆ จะออกมาโวยวายพ่อ แล้วพ่อจะไปตอบโต้รุนแรง อาว่ามันไม่อยู่ในวิสัยของคนที่นับถือศาสนาพุทธเขาจะทำกัน ตอนนี้เรื่องราวทั้งหมดอาไม่อยากไปติดใจอะไรมากมาย เพราะว่าเด็กเขาไม่รู้เรื่อง คือประเด็นที่มันเกิดเป็นข่าวขึ้นมาเนี่ยก็เพราะว่าเอาชื่อตัวเองไปเป็นเจ้าบ้านที่เมืองกาญฯ คือบ้านหลังนี้มันเป็นความเข้าใจผิดของทางแม่เขาในความเป็นเจ้าบ้านกับเจ้าของบ้านมันไม่เหมือนกัน อย่างสมมติว่าคุณมีบ้าน 3 หลัง ก็หมายความว่าในอีก2 หลังเนี่ยก็ต้องเอาชื่อใครก็ได้ไปใส่ไว้เป็นเจ้าบ้านเพราะทางการเขากำหนดไว้ว่าทุกบ้านจะต้องมีเจ้าบ้าน ที่เขาต้องกำหนดอย่างนั้นก็เพราะว่าเอ๊ะๆ เดี๋ยวมีใครเข้าไปค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อนอะไรก็จะไม่มีใครรับผิดชอบ นึกออกใช่มั้ย แล้วทีนี้เขากับอาศาลพิพากษาให้หย่ากันมา 10 ปีแล้วเมื่อเดือนธันวาคมปี 51 แต่ความเข้าใจผิดทางแม่เขาเนี่ยถ้าเขามีชื่อเป็นเจ้าบ้านนั้นหมายความว่าเขาเป็นเจ้าของบ้านซึ่งมันไม่ใช่ เพราะฉะนั้นในคำพิพากษามันมีชัดเจนอยู่แล้วว่าเรื่องบ้านที่เมืองกาญฯ มันเป็นสิทธิ์ของอา แต่ในส่วนที่จะต้องแบ่งกันคือคอนโดและเงินอีก 800,000 ที่ให้ไปแล้ว คือจบไปแล้ว

  

  แต่ความที่เขายังเข้าใจแบบนี้ เราเองก็ไม่ได้คิดว่าเขาเองจะมาอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของเขาอีก ในเมื่อศาลพิพากษาไปแล้ว แต่เราก็ไม่ได้เอาชื่อเขาออกมา คือปกติคนที่หย่ากันแล้วเขาจะเอาหนังสือไปแจ้งกับทางการ ซึ่งจริงๆ แล้วอาก็ไปแจ้งมาแล้วเมื่อปี 56 ว่าขอให้ย้าย ซึ่งตอนแรกจะให้ย้ายเข้าทะเบียนบ้านกลางไปซะ แต่เราก็คิดว่าปล่อยไปก่อนมั้งคงไม่เป็นไรแต่ก็เนี่ยความไม่เข้าใจของทางเขาเลยเป็นประเด็น แล้วมันก็เลยไปผลักลูกออกมาเรียกร้องอะไรในสิ่งที่ลูกเขาไม่รู้ เขาไม่รู้กฏหมายอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เขาก็เลยเข้าใจแบบนี้ แล้วก็เลยไปฟังจากทางแม่เขามาว่าเขามีสิทธ์ตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นมาอ้างว่าบ้านควรจะเป็นของเขา ซึ่งลูกสาวคนโตก็ยังขำเลยว่าไปคิดได้ยังไงว่าเป็นบ้านของตัวเอง คือบ้านของพ่อแม่มันก็ไม่ใช่บ้านของลูก เพราะฉะนั้นอาก็ไม่อยากจะตอบโต้อะไร เขาว่ายังไงก็ว่าตามเขา คือลูกอาจจะทำร้ายพ่อได้ แต่พ่อไม่ทำร้ายลูกหรอก

  

  ส่วนประเด็นที่เขาบอกว่าเขากับแม่ก็ไปๆ มาๆ นั้นซึ่งมันไม่เกี่ยวหรอก มันอยู่ที่ในความเป็นสิทธิ์ คือถ้าคนที่เป็นเจ้าบ้านแล้วไม่ได้อยู่ในบ้านนั้น 6 เดือนเนี่ยเขามีสิทธิ์ที่จะเอาเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลางได้เลย แต่นี่ 10 ปีแล้ว จะร่วม 20 ปีด้วยซ้ำไป ตั้งแต่เริ่มต้นฟ้องร้องเขาก็ไม่เคยไปบ้านอยู่แล้ว ใครๆ ก็ยืนยันได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้านหรือว่าใคร เพราะฉะนั้นสิ่งที่ลูกบอกก็ไปๆ มาๆ ตลอดก็ไม่รู้ว่าถูกใครผลักให้มาพูดแบบนี้ ก็เอาเป็นว่าอาอโหสิกรรมกันไปแล้วกัน เพราะในความเป็นพ่อเราไม่ทำร้ายลูก แต่ถ้าเขาเข้าใจผิดก็ชี้แจงเขาไป เอ๋ ไพโรจน์ กล่าว

เอ๋ ไพโรจน์
เอ๋ ไพโรจน์

 

เอ๋ ไพโรจน์
เอ๋ ไพโรจน์

 

นายรวิกร สังวริบุตร ลูกชาย เอ๋ ไพโรจน์
นายรวิกร สังวริบุตร ลูกชาย เอ๋ ไพโรจน์