แม้หลายคนจะมองว่าการทุบเรือนหอทิ้งเป็นลางไม่ดี แต่คุณแม่สุดแซ่บ ธัญญ่า ธัญญาเรศ ก็หาได้แคร์ไม่ เพราะเจ้าตัวออกมายืนยันด้วยตัวเองพร้อมควงสามี เป๊ก สัณชัย ในงานแถลงข่าวเปิดเวทีการประกวดนางสาวถิ่นไทยงาม 2561 ณ บ้านย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ว่าไม่ได้มีการทุบบ้าน แค่เปลี่ยนไปเป็นคลินิกศัลยกรรมที่ตนเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ ซึ่งก็มีการปรึกษาหารือกับทางครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ เป๊ก สัณชัย เซ็นโอนมรดกทั้งหมดให้ลูกสาว น้องลียา นั้นเป็นเรื่องจริง ยันไม่ได้บังคับ เพราะสามีทำเรื่องเสร็จถึงได้บอกตนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากกลัวว่าหากไม่มีชีวิตอยู่แล้วจะมีเรื่องยุ่งยาก ส่วนเรื่องลูกคนที่ 2 หมดหวังแล้ว ไม่มีก็ไม่เป็นไร
(ได้ข่าวว่าจะทุบเรือหอเก่าทิ้ง) “จริงๆ ทุบไปแล้วค่ะ จริงๆ ไม่ได้ทุบค่ะ แต่ว่าเปลี่ยนจากบ้านไปเป็นบีบีคลินิกที่สุขุมวิท 11 (จะเป็นลางไหมโบราณอาจจะถือ) ก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ เพราะว่าคุณพ่อก็เห็นว่าตรงนั้นมันเป็นสุขุมวิท อยากทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ ตอนแรกคิดจะทำคอนโด แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นบีบีคลินิก ด้วยโลเคชั่นตรงนั้นมีชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ มันให้อารมณ์ความเป็นบ้าน ลูกค้าที่เข้ามาก็จะรู้สึกอบอุ่น แล้วห้องนอนต่างๆ ก็กลายเป็นห้องผ่าตัด ห้องพักคนไข้ มันก็แปลกดี (ตั้งใจจะทำธุรกิจครบวงจรเลย) ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็ครบวงจร ผลตอบรับดี คนไทยสมัยนี้หันมาสนใจการทำศัลยกรรมค่อนข้างเยอะ แล้วก็จะใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยด้วย บีบีคลินิกก็เพิ่งได้รับมาตรฐานจาก JCI ก็ถือว่าเป็นคลินิกแห่งแรกของเมืองไทยที่ได้รับ รู้สึกดีใจมากค่ะ เพราะว่าทำทั้งทีมันได้ผลตอบรับที่ดีแบบนี้ งบประมาณบานปลายไหม ก็บานพอสมควรนะคะ”
”พูดถึงคุณพ่อก็ลงทุนไปเยอะพอสมควร จริงๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเยอะแต่ว่าพวกอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ต่างๆ ราคาค่อนข้างสูง มันก็ต้องใช้ของดีจริงๆ ต้องได้รับมาตรฐาน ต้องใช้เงินเยอะพอสมควร ก็มานั่งปรึกษาหารือกัน เพราะว่าบ้านหลังนั้นก็เป็นบ้านที่คุณพ่อคุณแม่อยู่ น้องสาวพี่เป๊กก็อยู่มาตั้งแต่เด็ก พี่เป๊กก็อยู่มาตั้งแต่เด็ก ก็ปรึกษากันว่าถ้าจะมาทำตรงนี้โอเคกันไหม ทุกคนก็เห็นว่าโอเค ตอนนี้ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ค่ะ (เลียบด่วน-รามอินทรา) อันนี้สร้างตั้งแต่ก่อนลียาเกิด แล้วเหมือนพี่เป๊กคงงบหมด (หัวเราะ) ตอนแรกเราก็บอกไม่ต้องเอาหลังใหญ่ เอาพอประมาณ อนาคตลูกโตตัวเขาก็อยากให้ลูกมีพื้นที่ จนไปๆ มาๆ พ่อคงสงสาร เลยมาช่วยบ้านหลังนี้ก็เลยเสร็จ”
(เปลี่ยนย่านต้องมีการปรับตัวไหม) “จริงๆ ไม่นะคะ เพราะว่าก่อนแต่งงานก็อยู่แถวนี้ พอแต่งงานก็ไปอยู่สุขุมวิท ก็ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะปรับตัวกับสุขุมวิทได้ มาอยู่ที่นี่ได้ 2 ปีแล้วค่ะ อยู่กัน 3 คนค่ะ แต่คุณพ่อก็จะมานอนบ้าง แต่อนาคตก็บ้านข้างๆ เป็นบ้านพี่กบทรงสิทธิ์ พี่เป๊กก็จีบขอซื้อ แล้วก็ให้พี่เป๊กไปซื้อหลังตรงข้ามเพราะเขากำลังจะขาย อยากจะให้พ่อแม่มาอยู่ตรงนี้ด้วย เลยไล่ที่พี่กบ (หัวเราะ) คุยกับพี่กบแล้ว พี่กบก็บอกว่านี่โดนบังคับนะเนี่ย (หัวเราะ) คลินิกเปิดมาเป็นปีแล้วค่ะ ไม่ได้ขยายนะคะ แค่ปรับเปลี่ยนห้องต่างๆ จากเป็นบ้านก็ให้เป็นคลินิก เข้าไปนี่บรรยากาศเหมือนบ้านเลยค่ะ”
(ได้ข่าวว่าพี่เป๊กเซ็นมรดกให้น้องลียาหมดแล้ว) “อ๋อใช่ เขาเซ็นแล้วค่ะ ไม่ได้บังคับ เราไม่ได้ยุ่งอะไรเลย พี่เป๊กเซ็นตอนเขาบวชค่ะ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วค่ะ เขาทำเรื่องอะไรเสร็จถึงได้บอกเราว่าตอนนี้เขาจนมากนะ ไม่มีเงินแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ลูกหมดแล้ว เขาบอกว่าไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่อยากให้เป็นปัญหา ถ้าเกิดวันหนึ่งเขาไม่อยู่แล้วจะเป็นปัญหา ก็อยากทำให้มันเสร็จไปเลย (เหมือนบวชแล้วปลง) อันนี้ต้องถามเขา ทุกอย่างเขาก็ให้ลียาอยู่แล้ว น้องไม่รู้เรื่องค่ะ”
(แสดงว่าไม่มีแพลนมีลูกคนต่อไป) “จริงๆ ก็มี ทำมาแล้วด้วย แต่ว่าไม่ติด ไม่ได้ ตอนนี้ลียาก็ 8 ขวบแล้ว เลยคุยกันว่าถ้าอย่างนั้นเรามีลียาคนเดียวก็ได้ ทำมานานแล้วค่ะ ช่วง 3 ปีที่แล้ว ทำมาเรื่อยๆ แต่ว่าพอไม่ได้ เราก็เลยมีคนเดียวก็ได้ อาจจะถูกกำหนดให้มีคนเดียว อุ้มบุญค่ะ ครั้งสุดท้ายน่าจะ 2 ปีค่ะ คิดว่าไม่น่าจะมีแล้ว มีคนเดียวก็ดีนะคะ จริงๆ มีลูกก็มีห่วง ขนาดเรามีลูกคนเดียวก็ยังห่วงเขาทุกอย่าง ไปไหนทำอะไรโดยที่ไม่มีเขาก็จะห่วงตลอดเวลา ถ้ามีเพิ่มอีกคนก็เหมือนมีห่วงเพิ่ม แต่ว่าเราก็อยากมีน้องให้เขา เพื่อที่เขาจะได้มีเพื่อนที่สนิทกัน แล้วตัวเขาเองก็อยากมีมาก แต่ว่าในเมื่อมันมีไม่ได้ก็จะคอยบอกเขาว่าเราก็ไม่ได้มีง่ายนะ ลียาเองกว่าจะมาตั้ง 4 ปี” ธัญญ่า กล่าว,
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก IG: @tanya_liyah, pegliyah