ถือเป็นนักแสดงและพิธีกรที่เก่งและฉลาดอีกหนึ่งคนสำหรับ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ซึ่งไม่นานมานี้ได้แอบไปป๊ะกันกับเจ้าตัวในงานหนึ่ง จึงรีบลากแขนถามไถ่เกี่ยวกับ 6 โมเม้นต์ในชีวิตของคุณเธอ ซึ่งพอได้พูดคุยก็ทำให้รู้ว่ากว่า She จะผ่านมาถึงจุดนี้ได้นั้น ต้องโดนล้อสารพัดหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องของสีผิว แต่งานนี้คุณเธอก็ด้อนท์แคร์ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่จนกลายมาเป็นที่รักที่ชื่นชอบของทุกคนได้อย่างทุกวันนี้
1.โมเม้นต์ที่แฮปปี้ที่สุด
“เป็นตอนที่ปลดล็อคกับคนไทยได้ค่ะ ซึ่งเวลาที่เรามาเมืองไทยเราโดนล้อตลอดโดยเฉพาะเรื่องสีผิว เราจะโดนว่าตลอดเลยตั้งแต่เด็กจนโต จนวันหนึ่งเราได้มาทำงานในวงการ พอเราได้เป็นที่รักที่ชื่นชอบของคนไทยหลายๆ คน มันเลยทำให้เราปลดล็อคตรงนั้นไปเลยทันทีค่ะ แขรู้สึกแฮปปี้กับการใช้ชีวิตตรงนี้เพิ่มมากขึ้น และมันแตกต่างจากการที่มาเมืองไทยครั้งก่อนมาก จากที่เราโดนล้อสารพัด แต่ตอนนี้เวลาที่เราเจอใครทุกคนก็จะทักเราแล้วเราก็ยิ้มตอบมันรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ”
2.โมเม้นต์เศร้าๆ
“เรื่องการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตอนที่ได้ยินข่าวครั้งแรกก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ซึ่งตอนนั้นเรายังอยู่ที่สยามเพราะยังติดงานอยู่ เราเลยพยายามติดต่อเพื่อนที่เป็นนักข่าวว่าจริงไหม พอเพื่อนคอนเฟิร์มว่าจริง เราก็เลยโทรไปบอกแม่ก่อน แต่ใจก็ยังไม่ชัวร์ เพราะเมื่อไหร่ที่ยังไม่มีแถลงการณ์ข่าวก็ยังเชื่อไม่ได้ พอหนึ่งทุ่มมีแถลงการณ์จากท่านนายกตอนนั้นทุกอย่างเบลอไปหมด กลับบ้านไม่ได้ แล้วคืนนั้นเราก็รีบไปสนามหลวงทันที ไปยืนอยู่ข้างประตูวังเพื่อระลึกถึงท่าน จากนั้นพอเราบอกกับตัวเองว่าเราต้องอยู่ให้ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องดำเนินต่อไปตามทางของมัน”
3.โมเม้นต์ชิลๆ
“วันไหนที่เราไม่มีงานเลย ทั้งวันแขจะนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวแล้วนั่งริมสระว่ายน้ำอยู่ที่บ้าน เพราะด้วยความที่เราเล่นละครเราต้องแต่งหน้าและต้องใส่เสื้อผ้าที่มันเยอะๆ เรารู้สึกว่ามันร้อนและอึดอัด เพราะฉะนั้นเวลาไหนที่เราว่างปุ๊ปคือ ถอดหมด ใส่แค่ผ้าขาวม้าแล้วเอาเท้าแช่สระ กินข้าวก็กินตรงนั้นไม่ไปไหนเลยทั้งวัน เพราะสระน้ำที่บ้านมีต้นไม่เยอะแล้วร่มรื่นมาก แขชอบอยู่แบบนั้นมากเลยค่ะ”
4.ฉายาวัยเด็ก
“มีเยอะมากเลยไม่ว่าจะเป็น ข้าวนอกนา มันพีคมากเพราะว่าเวลาที่พวกนั้นเจอ มันก็จะร้องเพลงประกอบในละครใส่เราเลย แต่พอเราโตขึ้นมาอีกหน่อยเลเวลก็จะอัพขึ้นเป็น ไมค์ ไทสัน กับ มูฮัมหมัด อาลี อันนี้คือโกรธมาก เพราะว่าสองคนนี้คือนักมวย กะเทยถูกล้อว่าเป็นนักมวย มันไม่ตลกเลยนะคะ (หัวเราะ)”
5.ความฝันวัยเด็ก
“อยากเป็นแอร์โฮสเตทค่ะ แบบเกล้าผมมวยชุดการบินไทย ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีปัญญได้ใส่ชุดนั้น (หัวเราะ) คือเราชอบดูสารคดีอะไรที่เกี่ยวกับสนามบินหรือการผลิตเครื่องบินอยู่แล้ว ชอบมากตั้งแต่เด็กๆ แล้วพอโตมาเวลาที่เราจะจองตั๋วเครื่องบิน แขถึงขั้นดูหมายเลขเครื่องบินด้วยนะ ว่ารุ่นที่เราจะนั่งนั้นเป็นแบบไหน บางทีก็คิดว่าตัวเองโรคจิตนะคะ (หัวเราะ) แต่คือเราทึ่งในความสามารถของมนุษย์ แขรู้สึกอินกับเรื่องนี้มากเลยค่ะมันมากค่ะ”
6.แพลนอนาคตตัวเองยังไง
“จะพยายามทำงานในวงการให้ได้มากที่สุด และจะพยายามแสดงศักยภาพใช้ความสามารถของตัวเองที่มีอยู่ให้เต็มที่ ให้เราอยู่ตรงนี้ได้นานที่สุดค่ะ แต่ถ้าเป็นในเรื่องของธุรกิจดูแล้วก็คงยาก ถ้าจะให้ไปขายครีมก็แปลกหรือสบู่ก็งง ถ้าจะเป็นยาลดความอ้วนก็เอ๊ะ แขก็ไม่รู้จะขายอะไร แต่ถ้าแพลนไว้จริงๆ ก็จะพยายามออมเงินให้ได้มากที่สุด ถ้าหมดวาระในวงการบันเทิงจริงๆ แบบไม่มีอะไรทำแล้วจริงๆ ก็คงจะกลับไปเปิดร้านอาหารที่สวีเดน”