Couple or Not? คู่ไหน...ใช่เลย

Couple or not คู่ไหน…ใช่เลย เปิดใจคู่รัก LGBT พลาดสิทธิ์รักษามะเร็งตับระยะสุดท้าย เพราะคู่สมรสเพศเดียวกัน! ขอเป็นกระบอกเสียง ดัน พ.ร.บ. คู่ชีวิต

Home / TV Variety / Couple or not คู่ไหน…ใช่เลย เปิดใจคู่รัก LGBT พลาดสิทธิ์รักษามะเร็งตับระยะสุดท้าย เพราะคู่สมรสเพศเดียวกัน! ขอเป็นกระบอกเสียง ดัน พ.ร.บ. คู่ชีวิต

รายการ Couple or not คู่ไหน…ใช่เลย เทปการออกอากาศที่ผ่านมา (27 ธันวาคม 2563) ได้พาไปรู้จัก คู่รัก LGBT จากทางบ้าน “มิกกี้ – ดลวัฒน์ ไชยชม” อายุ 29 ปี อาชีพ รับราชการครู และ “กร – พลวัต ใชวุฒิ” อายุ 38 ปี อาชีพ พนักงานขับรถ โดย คุณกร เป็นผู้ป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ซึ่งทางแพทย์วินิจฉัยว่า คุณกร มีอาการอยู่ในระยะที่ 4 และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 6 – 8 เดือน จะใช้วิธีการรักษาแบบประคับประคองเท่านั้น

ทำเอาแขกรับเชิญในรายการ อย่าง “ไก่ – สมพล ปิยะพงศ์สิริ, ได๋ – ไดอาน่า จงจินตนาการ, อาร์ต – พศุตม์ บานแย้ม และ ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หลังจากได้ฟังเรื่องราวชีวิตของทั้งคู่ที่ โดย “คุณกร” ฝ่ายสามีที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายด้วยใจที่เข้มแข็ง และฝั่ง “คุณมิกกี้” ภรรยา ก็ได้หาทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตคนรักให้อยู่บนโลกนี้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

“มิกกี้” เผยจุดเริ่มต้นของความรักว่าได้มีโอกาสคุยกันผ่าน Facebook คุยจน “กร” เป็นฝ่ายเริ่มขอเบอร์ “มิกกี้” ก่อน แต่ มิกกี้ ก็ไม่กล้าที่จะให้ เพราะกลัว “กร” จะรู้ว่าตัวเองเป็นสาวประเภทสอง ไม่ใช่ผู้หญิงแท้ ในจังหวะนั้น “กร” กลับพูดขึ้นมาว่า “ไม่เป็นไรนะ ถ้าเราไม่มีลูกด้วยกันเราก็ไปหาสุนัขมาเลี้ยงแทนก็ได้” ทำให้ “มิกกี้” รู้สึกประทับใจมาก จึงยอมให้เบอร์โทรศัพท์ไป และคิดว่า คุณกร คงรู้แล้วว่า มิกกี้ เป็นสาวสอง และยังพร้อมที่จะคุยด้วยกันต่อ หลังจากคุยกันมาได้สักพัก “มิกกี้” ตัดสินใจว่าถึงเวลาที่อยากจะอยู่เป็นคู่ชีวิตแล้ว จึงกู้เงิน มาสร้างบ้าน เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันและแต่งงานกัน ซึ่งพอคบกันได้ 5 ปี กว่าๆ “คุณกร” เริ่มมีอาการป่วย จึงพา คุณกร ไปตรวจ ที่โรงพยาบาล จนได้ทราบว่าคุณกรมีปัญหาเกี่ยวกับโรคตับ เป็นไวรัสตับอักเสบบี จนกลายมาเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย! หลังจากที่ทราบผลการตรวจแล้ว “มิกกี้” ก็ทุ่มเทดูแล “กร” เป็นอย่างดี คอยตั้งนาฬิกาปลุก ทุกๆ 30 นาที เพื่อมาเช็ดตัวให้ “กร” อยู่ตลอดเวลา เนื่องด้วยผู้ป่วยมะเร็งตับ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทานยาพารา หรือยาปฏิชีวนะ แล้วกรก็มีอาการไข้ เลยต้องตื่นทุกๆ ครึ่งชั่วโมง คอยเช็คว่า กร มีอาการตัวร้อนไหม ตัวเย็นเกินไปก็ไม่ได้ เลยต้องตื่นมาเช็คทุกๆ 30 นาที เพื่อคอยเช็ดตัวให้กร

มิกกี้ ยังเล่าอีกว่า “การรักษามะเร็งตับพี่กร คุณหมอไม่แนะนำให้ทำคีโม เพราะว่าอยู่ในระดับแพร่กระจายแล้ว ต้องใช้ยามุ่งเป้า ซึ่งถ้าเป็นบุคคลธรรมดา นอกเหนือจากสิทธิ์บัตรทอง ยานี้อยู่ในราคาเม็ดละ 2,000 บาท ซึ่งพี่กร ต้องใช้ยามุ่งเป้า วันละ 2 ครั้ง ตกวันละ 4,000 บาท รวมแล้วเดือนละ 120,000 บาท คุณหมอยังบอกอีกว่า ถ้าเป็นสิทธิ์เบิกตรงของข้าราชการ สามารถเบิกใช้ยานี้ได้ แต่ด้วยการที่เราเป็นเพศเดียวกัน กฎหมายยังไม่รองรับในเรื่องของการสมรสเท่าเทียม เรา 2 คนก็เลยปฏิเสธการรักษาและเลือกที่จะประคับประคองให้เค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดด้วยกัน 2 คน”

นอกจากนี้ “ไก่ – สมพล” ยังเสริมอีกว่า “เห็นด้วยกับเรื่องจดทะเบียนสมรสระหว่างเพศเดียวกัน เป็นช่วงของการขับเคลื่อนกฎหมายนี้ ซึ่งส่งผลให้คนรักเพศเดียวกัน ขาดสิทธิ์หลายอย่างที่ควรจะได้รับในฐานะที่เป็นครอบครัวเดียวกัน นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง เมื่อคู่ของเราป่วย แต่เราไม่สามารถเซ็นรับรองเพื่อให้ได้รับการรักษา เราก็มีแฟนชาย ถ้าแฟนเราเป็นอะไร เราต้องสามารถเซ็นรับรองการรักษาได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องการให้เกิดกฎหมายที่เพศเดียวกัน สามารถจดทะเบียนสมรสได้”

ทางฝั่ง “คุณกร” เผยความรู้สึกที่มีต่อ มิกกี้ อีกว่า “ไม่ว่าผมจะอยู่จากนี้ต่อไปอีกกี่ปีก็ช่าง ผมถือว่าก็ช่างเลยนะครับ ผมถือว่าคนนี้คือคนสุดท้ายที่ผมจะรัก ผมจะรักคนๆนี้ตลอดไป”

ความรักไม่เกี่ยวกับเพศสภาพ ความรักขึ้นอยู่ที่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ติดตามความรักหลากหลายรูปแบบได้ใน รายการ Couple or not คู่ไหน…ใช่เลย ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16:00น. ทาง ช่อง 3HD และ ช่อง 33